ชาวอเมริกันสูบกัญชา มากกว่าการดื่มเหล้า
ข่าวปู๊น ปู๊น นี้ได้รับการเปิดเผยจากสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงวอชิงตัน สหรัฐอเมริกา ในวันนี้ (24 พฤษภาคม 2567) ว่าวารสาร แอดดิกชัน (Addiction) ได้เผยแพร่ข้อมูลจากหน่วยงานสำรวจการใช้ยาเสพติดและสุขภาพระดับชาติของสหรัฐ ในช่วง 4 ทศวรรษที่ผ่านมา พบว่าจำนวนชาวอเมริกันที่สูบกัญชาในแต่ละวันหรือเกือบทุกวัน มีจำนวนมากกว่าผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ โดยเมื่อปี 2565 มีรายงานผู้ใช้กัญชาประมาณ 17.7 ล้านคนต่อวัน สูงกว่าจำนวนผู้ดื่มสุรารายวัน ที่ประมาณ 14.7 ล้านคน เป็นครั้งแรกตั้งแต่มีการบันทึกมา
ถึงแม้แอลกอฮอล์จะยังถูกใช้อย่างแพร่หลาย แต่การศึกษาระหว่างปี 2535 ถึงปี 2565 ได้เปิดเผยว่า มีรายงานอัตราผู้ใช้กัญชาทุกวันหรือเกือบทุกวัน เพิ่มขึ้นถึง 15 เท่า โดยเมื่อปี 2535 มีผู้คนน้อยกว่า 1 ล้านคน ใช้กัญชาเกือบทุกวัน นับเป็นรายงานการใช้กัญชาซึ่งต่ำที่สุดตั้งแต่มีการเริ่มศึกษาเมื่อปี 2522 โน่นเลยทีเดียว โดยหัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ของอีโอแคร์
บริษัทกัญชาทางการแพทย์ อย่างดร.บรูค วอร์สเตอร์ ได้ออกมากล่าวว่า แม้การใช้กัญชาเพิ่มขึ้นด้วยเหตุผลหลายประการ แต่การเลิกทำให้กัญชาเป็นสิ่งต้องห้าม จะส่งผลให้ผู้คนจำนวนมากกล้ารายงานอย่างเปิดเผยว่าพวกเขาใช้มัน อัตราดังกล่าวไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปมากนักอย่างที่การสำรวจระบุไว้และผู้คนไม่รู้สึกกลัวที่จะยอมรับว่าใช้มัน โดยดร.วอร์สเตอร์ยังได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่า อุตสาหกรรมสำหรับผลิตภัณฑ์กัญชาที่ถูกกฎหมาย ขยายตัวอย่างมากในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา และขยายตลาดไปถึงกลุ่มผู้สูงอายุจำนวนมากเช่นกันไม่ได้มีเพียงคนขี้เมาอายุ 20 ปีในหอพักอีกต่อไป โดยการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการได้รับอนุญาตใน 24 รัฐ และกรุงวอชิงตัน ขณะที่อีก 38 รัฐออกกฎหมายให้ใช้กัญชาทางการแพทย์จนถึงขณะนี้ และทางรัฐบาลต่อต้านการเรียกร้องกัญชาเสรี หรือลดทอนอาชญากรรมของกัญชาในระดับชาตินั่นเอง . . . ถือว่าข่าวนี้เข้ากับเหตุการณ์ที่บ้านเรากำลังจำนำกัญชาเข้าไปเป็นยาเสพติดเหมือนเดิมได้พอเหมาะพอเจาะดีเหลือเกิน จะรอดูว่าฝ่ายไหนจำอ้างอิงถึงข่าวนี้ก่อนกัน