สหรัฐ-ญี่ปุ่น ร่วมมือพัฒนาระบบสกัดกั้นขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิก
โดยสำนักข่าวเอเอฟพี รายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในวันนี้ (16 พฤษภาคม 2567) ว่า แผนการดังกล่าว ซึ่งมีรายงานว่า จะใช้ต้นทุนมากกว่า 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือคิดเป็นเงิยไทยก็ตกอยู่ที่ประมาณ 108,000 ล้านบาท โดยได้รับการประกาศครั้งแรกเมื่อเดือนสิงหาคม ปีที่แล้ว ในการประชุมสุดยอดที่แคมป์เดวิดนอกกรุงวอชิงตัน โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับขีปนาวุธ เช่น อาวุธที่มีความเร็วเหนือเสียง ในประเทศบริเวณรอบญี่ปุ่น ได้รับการปรับปรุงอย่างมาก
ส่งผลให้การเสริมสร้างความสามารถ ในการสกัดกั้นอาวุธเหล่านั้น ถือเป็นประเด็นเร่งด่วน กระทรวงกลาโหมญี่ปุ่น ระบุในแถลงการณ์เกี่ยวกับข้อตกลงการร่วมพัฒนาระบบที่เรียกว่า ไกลด์ เฟส อินเทอร์เซปเตอร์” (GPI) โดยที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้รวมเงิน 75,000 ล้านเยนหรือประมาณราว 17,500 ล้านบาท ในงบประมาณปี 2567 ของประเทศ
สำหรับการพัฒนาระบบสกัดกั้น ตามส่วนหนึ่งของงบประมาณกลาโหมที่สูงสุดเป็นประวัติการณ์ 7.95 ล้านล้านเยนหรือประมาณราว 1.86 ล้านล้านบาท ซึ่งได้รับการอนุมัติเมื่อปีที่แล้ว ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มขึ้นระหว่างญี่ปุ่นกับจีนและเกาหลีเหนือซึ่งเป็นประเทศบ้านใกล้เรือนเคียง ในขณะเดียวกัน นายกรัฐมนตรีฟุมิโอะ คิชิดะ ผู้นำของประเทศญี่ปุ่น ได้ให้คำมั่นว่าจะเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหมเป็นสองเท่า ตามมาตรฐานขององค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือหรือนาโต้ ซึ่งได้กำหนดไว้ที่ 2% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือจีดีพี ภายในปี 2570 ที่จะมาถึงนี้อีกด้วย