นักวิทยาศาสตร์ชี้ ปี 2566 ร้อนสุดใน 2000 ปี
เป็นข่าวที่รายงานมาจากสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส ในวันนี้ (15 พฤษภาคม 2567) ว่าจากผลการศึกษาได้พบว่า ซีกโลกเหนือมีอุณหภูมิร้อนที่สุดในรอบ 2,000 ปี เมื่อปี 2566 และเป็นปีซึ่งร้อนที่สุดในโลกนับตั้งแต่มีการบันทึกสถิติเมื่อปี 2393 โดยเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากฝีมือมนุษย์เป็นส่วนใหญ่ โดยดร.แจน เอสเปอร์ ซึ่งเป็นศาสตราจารย์ด้านภูมิอากาศของมหาวิทยาลัยโยฮันเนส กูเทนแบร์ก ในเยอรมนี และเป็นผู้รายงานผลการวิจัยชิ้นนี้ ได้ระบุว่า เราไม่ควรแปลกใจ สำหรับเขา มันเป็นเพียงผลที่เกิดขึ้นต่อเนื่องจากการที่มนุษย์ เริ่มต้นปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งทำให้เกิดภาวะโลกร้อนอย่างในปัจจุบันนี้ โดยนักวิทยาศาสตร์ใช้ข้อมูลจากการศึกษาวงปีต้นไม้ ซึ่งเป็นการดูเนื้อเยื่อของลำต้นไม้
จากพื้นที่ต่าง ๆ ทั่วซีกโลกเหนือเพื่อวัดอุณหภูมิโลกระหว่างปี 544 จนถึงปี 2393 ก่อนหน้าวิวัฒนาการเครื่องมือสมัยใหม่ โดยการสำรวจด้วยวิธีสมัยเก่าพบว่า ในปี 2566 นั้น ฤดูร้อนในช่วงซีกโลกมีอุณหภูมิที่ร้อนกว่าฤดูร้อน เมื่อปี 789 อย่างน้อย 0.5 องศาเซลเซียส หรืออาจร้อนกว่าถึง 1.19 องศาเซลเซียสก็อาจเป็นไปได้ และยังได้ระบุว่าในช่วง 28 ปีที่ผ่านมา มี 25 ปีที่ฤดูร้อนมีอุณหภูมิสูงกว่าเมื่อปี 789 ซึ่งเป็นปีร้อนที่สุดของโลก ก่อนที่จะมีการบันทึกอุณหภูมิแบบปัจจุบัน
ขณะเดียวกัน ฤดูร้อนซึ่งเย็นที่สุดในรอบ 2,000 ปี มีอุณหภูมิต่ำกว่าฤดูร้อนปี 2565 ในซีกโลกเหนือเกือบ 4 องศาเซลเซียส เนื่องจากการมีการปะทุครั้งใหญ่ของภูเขาไฟเกิดขึ้น โดยนักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า การระเบิดของภูเขาไฟ อาจนำมาซึ่งสภาพอากาศที่เย็นลงในอนาคตเช่นเดียวกับเมื่อในอดีต อย่างไรก็ตาม การปล่อยก๊าซเรือนกระจกของมนุษย์ ส่งผลให้ความร้อนถูกกักเก็บไว้ในชั้นบรรยากาศ นี่ต่างหากที่ทำให้เกิดสภาวะโลกร้อนอย่างแท้จริง