จีนออกนโยบาย ลดการบ้าน-หยุดการบูลลี่
นับเป็นข่าวดีที่ได้ถูกรายงานมาจากสำนักข่าวเอเอฟพีรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน ในวันนี้ (15 พฤษภาคม 2567) ว่ากระทรวงศึกษาธิการจีนได้เปิดตัวแคมเปญแก้ไขปัญหาต่างๆรวมไปถึงการบ้านที่มากเกินไปและการกลั่นแกล้งหรือการบูลลี่ในโรงเรียน ซึ่งเป็นส่วนหนี่งของความพยายามในการส่งเสริมสุขภาพจิตที่ดีให้แก่นักเรียนในประเทศ โดยการประกาศดังกล่าวนี้มีขึ้นหลังจากที่กระทรวงศึกษาธิการได้ออกมาแถลงว่า กำลังดำเนินการให้ความรู้ด้านสุขภาพจิตแก่ครูและนักเรียนในประเทศ
โดยมุ่งเน้นไปที่ผู้อพยพเด็กในชนบท หรือเด็กที่ถูกทิ้งไว้ข้างหลัง ซึ่งบิดามารดาหรือผู้ปกครองต้องเดินทางไปทำงานในเมืองใหญ่เกือบทั้งปีนั้น โดยที่ในประกาศได้ระบุรายละเอียดแนวทางปฏิบัติเชิงลบในโรงเรียน 12 ประการ รวมไปถึงการละเมิดสิทธิระหว่างช่วงพักเบรก และการเพิกเฉยและอดทนต่อพฤติกรรมกลั่นแกล้งต่างๆด้วย เพราะนับตั้งแต่ปี 2564 เป็นต้นมา ทางรัฐบาลได้พยายามปฏิรูปภาคการศึกษาและลดแรงกดดันทางวิชาการต่อนักเรียน โดยการควบคุมอุตสาหกรรมกวดวิชาเอกชนมูลค่า 120,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือประมาณ 4.3 ล้านล้านบาท
เพื่อลดต้นทุนด้านการศึกษา หลังจากที่ชาวจีนจำนวนมากอ้างว่าค่าดูแลและค่าเทอมสูงเกินไปและเป็นเหตุผลหลักซึ่งทำคู่หนุ่มสาวให้ไม่อยากมีบุตรแม้แต่คนเดียว โดยเหตุผลของการมีการประกาศดังกล่าวนั้น เกิดขึ้นหลังเกิดเหตุสังหารเด็กชายวัย 13 ปี ที่เมืองหานตาน ในมณฑลเหอเป่ย์ ทางตอนเหนือของจีน ซึ่งคดีดังกล่าวก่อให้เกิดการถกเถียงกันอย่างดุเดือดในสังคม เกี่ยวกับอาชญากรรมของเด็กและเยาวชนในปัจจุบันนี้ และชะตากรรมของบุตรของแรงงานข้ามชาติทิ้งไว้ที่บ้าน จากเหตุการณ์ในครั้งนั้นทำให้เด็กชาย 3 คนถูกจับกุมหลังถูกกล่าวหาว่า รังแกและสังหารนักเรียนคนดังกล่าวเมื่อวันที่ 10 มี.ค.ที่ผ่านมา ดังที่เป็นข่าวไปก่อนหน้านั้น