เกือบตายทั้งยังเสียขา เพราะผ้าอนามัยแบบสอด

        เป็นอุทาหรณ์สอนใจเกี่ยวกับของใช้ในชีวิตประจำวันใกล้ๆตัว เมื่อนางแบบคนหนึ่งจากลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา นามว่า ลอเรน วาสเซอร์ ได้ออกมาเล่าถึงประสบการณ์ส่วนตัวเพื่อเตือนใจสาว ๆ ที่นิยมใช้ผ้าอนามัยแบบสอด ว่าผลิตภัณฑ์ประเภทนี้อาจมีอันตรายแบบคาดไม่ถึงซ่อนอยู่ ย้อนกลับไปในปี 2555 ลอเรน วาสเซอร์ อายุเพียง 24 ปี ตอนที่เธอเริ่มมีอาการติดเชื้ออย่างรุนแรงจนอาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ เรียกว่า Toxic Shock Syndrome (TSS) เธออาจตาย ถ้าไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง โดยที่โรค TSS นี้พบได้น้อยมาก แต่จัดว่าเป็นโรคที่ร้ายแรง องค์กรให้บริการสุขภาพแห่งชาติของอังกฤษ (NHS) ระบุว่า โรคนี้ อาจเกิดขึ้นได้เมื่อใช้ผ้าอนามัยแบบสอดหรือถ้วยรองรับประจำเดือน หรือติดเชื้อผ่านทางบาดแผลได้ โดย ลอเรน วาสเซอร์ ซึ่งในปัจจุบันเธออายุได้ 36 ปี ได้กล่าวว่า ผ้าอนามัยแบบสอดส่วนใหญ่นั้นเต็มไปด้วยสารเคมี เช่น คลอรีน หรือสารฟอกขาวอื่น ๆ ที่จะปล่อยสารพิษออกมาเมื่อสัมผัสโดนผิวหนัง เมื่อผู้หญิงได้ใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทนี้ในเวลามีประจำเดือน ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ร่างกายมีความเปราะบางมาก นับว่าอันตรายอย่างมาก เพราะเพียงแค่สารพิษตัวใดตัวหนึ่งหลุดเข้าไปในร่างกาย ก็อาจทำให้เกิดการติดเชื้อ โดยอาการจะเริ่มจากการมีไข้ต่ำๆ จากนั้นอวัยวะภายในร่างกายก็จะค่อยๆหยุดทำงาน ซึ่งเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ และเธอยังเล่าต่อด้วยว่า ในปี 2555 หลังจากมีคนพบร่างที่ไม่ได้สติของเธออยู่ในบ้าน ตอนนั้นเธอมีไข้สูงถึงเกือบ 42 องศา และเธอก็มีอาการไตวาย หัวใจของเธอหยุดเต้นอย่างเฉียบพลันถึง 2 ครั้ง ทำให้ทีมแพทย์ลงความเห็นว่าเธอมีโอกาสรอดชีวิตน้อยมาก หลังอาการโคม่าราวสัปดาห์เศษ ลอเรน วาสเซอร์ ก็ฟื้นคืนสติ ต่อมาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการติดเชื้อได้สั่งให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่าเธอใส่ผ้าอนามัยแบบสอดอยู่หรือไม่ ซึ่งนำไปสู่การวินิจฉัยว่าเธอเป็นโรค TSS กล่าวคือติดเชื้อจากการใช้ผ้าอนามัยแบบสอด ถึงแม้ว่า ลอเรน วาสเซอร์ จะรอดชีวิตแต่ขาทั้งสองข้างของเธอกลับมีสภาพย่ำแย่ ผิวเนื้อตายและกลายเป็นสีดำ สุดท้ายก็ต้องตัดขาออกตั้งแต่ช่วงหัวเข่าลงไป และอีก 6 ปี หลังจากตัดขาขวา ลอเรน วาสเซอร์ ตัดสินใจตัดขาข้างซ้ายออกไปด้วย เพราะขาข้างที่เหลืออยู่ทำให้เธอรู้สึกเจ็บมากเกือบตลอดเวลา และในปัจจุบัน ลอเรน วาสเซอร์ เป็นผู้ใช้ขาเทียมและยังคงยึดอาชีพนางแบบแฟชั่น ขาเทียมสีทองทั้งสองข้างได้กลายเป็นเอกลักษณ์ประจำตัวของเธอไปแล้ว