"บ่เป็นหยังดอก" คำสั้นๆ แต่มีพลังยิ่งใหญ่ เปลี่ยนความโกรธ เป็นรอยยิ้ม
คุณตากับลูกชายเพิ่งกลับจากโรงพยาบาล เนื่องจากคุณตาต้องพาลูกชายคนเสื้อฟ้า ไปรับยากับคุณหมอเป็นประจำทุกเดือนตามปกติ แต่ขากลับคุณตาพลาดขับรถไปเฉี่ยวกระจกข้าง ของรถเก๋งสีขาว ที่พี่ผู้ชายเสื้อเขียวเป็นเจ้าของ
พี่ผู้ชายเจ้าของรถเก๋งก็ลงมาดูกระจกข้างของตัวเองว่าเป็นอย่างไรบ้าง จังหวะนี้คุณตาก็พยายามอธิบายสาเหตุ ว่าเป็นเพราะเบรครถมันไม่ค่อยดี ตาก็เลยพลาดไปเฉี่ยวกระจกข้างเข้า ต้องขอโทษด้วยจริงๆ
แต่สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือพี่เจ้าของรถเก๋ง ไม่ได้คิดจะถือสาหาความหรือเรียกร้องอะไรกับคุณตาเลยแม้แต่น้อย แต่พี่เขากลับพูดกับคุณตาเป็นภาษาอีสานว่า "บ่เป็นหยั๋งดอก" หรือก็คือไม่เป็นไรหรอกครับคุณตาไม่ต้องคิดมาก
และยังแนะนำให้คุณตาไปเช็คเบรคของรถด้วย เพราะนั่นเป็นอะไรที่อันตราย และน่าเป็นห่วงยิ่งกว่ากระจกข้างของรถพี่เขาซะอีก ทุกคนต่างยกมือไหว้ขอโทษ และขอบคุณซึ่งกันและกัน เป็นภาพที่เห็นแล้วรู้สึกอบอุ่นหัวใจเป็นอย่างมาก
คำว่า "บ่เป็นหยั๋งดอก หรือไม่เป็นไรนั้น" เป็นเพียงคำสั้นๆ แต่กลับมีพลังอันยิ่งใหญ่เหลือเกิน เพราะนั่นคือการที่เรารู้จักให้อภัยซึ่งกันและกัน เปลี่ยนจากความโกรธเป็นรอยยิ้มและการปล่อยวาง "ไม่เป็นไร" คำสั้นๆที่นับวันจะหาได้ยากขึ้นทุกวันในสังคมไทยบ้านเรา