หลบหนีคดีล่วงละเมิดเป็นเวลา 19 ปี
รายงานข่าวแจ้งว่าเมื่อวันที่ 10 มี.ค.2567 พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. , พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. และ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้รับรายงานจากชุดสืบสวนนครบาล ว่าได้ร่วมกันนายมีชัย อายุ 43 ปี ชาวกำแพงเพชร ซึ่งเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลกำแพงเพชร ที่ 38/2548 ลงวันที่ 8 ก.พ.2548 ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดตาม “ ร่วมกันข่มขืนกระทำชำเราหญิงซึ่งมิใช่ภริยาของตน โดยใช้กำลังประทุษร้าย โดยหญิงนั้นอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถขัดขืนได้ อันมีลักษณะเป็นการโทรมหญิง ”
พฤติการณ์สืบเนื่องจากเดือน ส.ค. 2547 ผู้ต้องหาพวกร่วมกันมอมเหล้าผู้เสียหาย จากนั้นพาไปข่มขืนกระทำชำเราที่ห้องพักของเพื่อน ในพื้นที่ อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ต่อมาผู้ต้องหาทราบว่าตัวเองถูกออกหมายจับ จึงหลบหนีออกจาก จ.กำแพงเพชร ไปตามจังหวัดต่าง ๆ โดยไม่ทำบัตรประชาชนใหม่ ไม่ทำเอกสารราชการใด ๆ ไม่ใช้บัญชีธนาคารตัวเอง เพื่อป้องกันการสืบสวนติดตามของตำรวจ โดยทำบัตรประชาชนครั้งสุดท้ายเมื่อปี พ.ศ.2545
ชุดสืบสวนนครบาล แกะรอยผู้ต้องหาทราบว่าทำงานก่อสร้างอยู่กับนายจ้าง ที่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ และไปอยู่ไซต์งานก่อสร้างที่ เขตบางบอน กรุงเทพฯ จึงเฝ้าติดตามและเข้าจับตามหมายจับ
จากการซักถามผู้ต้องหา อ้างว่า ผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีจึงได้หลบหนีออกจากบ้านที่ จ.กำแพงเพชร ใช้ชีวิตในกรุงเทพฯ และ จ.สมุทรปราการ ทำอาชีพเป็นช่างก่อสร้างกับเพื่อนที่รู้จักเพื่อนำเงินมาเลี้ยงชีพในระหว่างหลบหนี มีรายได้วันละประมาณ 500 บาท พักอาศัยในแคมป์คนงานก่อสร้างตามที่ได้รับจ้างเหมา โดยหลังก่อเหตุไม่ได้กลับไปที่บ้านอีกเลย ไม่มีการเก็บเอกสารหรือบัตรประจำตัวต่าง ๆ ที่แสดงตัวตน ไม่ทำบัตรประชาชนใหม่ ไม่ทำเอกสารราชการใด ๆ ไม่ใช้บัญชีธนาคารตัวเอง เนื่องจากเกรงว่าจะถูกจับ
พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. เปิดเผยว่า ผู้ต้องหาตามหมายจับยังให้การปฏิเสธว่าไม่ได้ล่วงละเมิดผู้เสียหาย ซึ่งตำรวจขอเตือนภัยสุภาพสตรีที่ชอบเที่ยวกลางคืนต้องระมัดระวังบุคคลแปลกหน้าโดยการดื่มเครื่องดื่มมึนเมา จากบุคคลที่ไม่รู้จัก อาจเกิดเหตุร้ายกับตนเองได้.
อ้างอิงจาก: fb ดาวแปดแฉก