นักวิชาการกฎหมาย ชี้ การที่ศาลอาญายกฟ้อง "ดารุมะซูชิ" ฐานฉ้อโกงประชาชน ศาลได้วางหลักไว้ถูกต้องแล้ว
"""_____ #ผมรับทำคดีฉ้อโกงประชาชน ในชั้นของศาลอุทธรณ์และฎีกา #ในลักษณะเดียวกับคดีดารูมะซูชิ ประมาณ 3 คดี
โดยทั้ง 3 คดี จะ #มีจุดที่แตกต่าง จากคดีของดารุมะซูชิอยู่ 3 ประการ ดังนี้
1. เงินที่ได้รับมาจากผู้เสียหาย #ถูกนำไปใช้ในลักษณะที่ผิดวัตถุประสงค์
2. การระดมเงินจากผู้เสียหาย #ไม่มีเหตุผลเพียงพอ
3. กิจการดำเนินต่อไปไม่ได้ เพราะ #ไม่ได้นำเงินที่ได้รับมาไปใช้ในกิจการ
ซึ่งคดีฉ้อโกงประชาชนใดก็ตามแม้จำเลยจะเป็นบุคคลธรรมดาหรือนิติบุคคลก็ตามถ้ามีความผิดปกติในทั้ง 1. ถึง 3. #ศาลจะถือว่ามีเจตนาฉ้อโกงทั้งสิ้น
โดยอาศัยหลักของ
""#กรรมเป็นเครื่องชี้เจตนา """
แต่คดีของดารุมะซูชิ พบว่า
1.เงินที่ได้ไปจากการขายคูปอง และการขายแฟรนไชส์ไม่ได้ถูกนำไปใช้ในลักษณะที่ผิดปกติแต่ #ถูกนำไปใช้ในกิจการทั่วๆไปที่จำเลยกระทำอยู่เป็นประจำ
2.การขายคูปองล่วงหน้าหรือการระดมทุนล่วงหน้ามีเหตุ #เนื่องจากมีผู้ใช้บริการจำนวนมาก จึงทำให้ต้องมีการขายคูปองล่วงหน้า ดังนั้น การขายคูปองล่วงหน้าจึงมีลักษณะที่ไม่ผิดปกติ
3.ที่ไม่สามารถดำเนินกิจการได้ เพราะเหตุว่าเกิดสงครามในต่างประเทศ ทำให้ราคาวัตถุดิบสูงขึ้นจนไม่อาจคาดหมายได้อันถือว่า #เป็นเหตุหรือปัจจัยภายนอก
คดีของดารุมะซูชิ #เมื่อไม่เข้าลักษณะทั้ง_3_ข้อ ศาลจึงถือว่า #ไม่มีเจตนาฉ้อโกงประชาชน เมื่อไม่มีเจตนาฉ้อโกงประชาชนแต่ไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้ ศาลจึงต้องปรับเป็นว่าเป็นการบริหารงานผิดพลาด และ #ถือว่าเป็นการผิดสัญญาทางแพ่ง
ซึ่งถือว่าศาลวางหลักได้ถูกต้องแล้วเพราะเมื่อไม่มีเจตนาฉ้อโกงประชาชน #จะถือเอาการบริหารงานผิดพลาดเป็นเจตนาฉ้อโกงไม่ได้ จะก็ต้องดูพฤติการณ์ทั้ง 3 ข้อ ว่ามีพฤติการณ์ครบทั้ง 3 ข้อหรือไม่ ถ้าไม่ครบทั้ง 3 ข้อก็ไม่เป็นฉ้อโกง
บริษัทหรือนิติบุคคลส่วนใหญ่ ที่มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน #ก็เพราะว่าไม่ผ่านเงื่อนไขในข้อที่_1 นั่นคือมีการนำเงินไปใช้ผิดวัตถุประสงค์หรือนำเงินไปใช้ไม่ตรงกับที่บอกกับผู้เสียหายนั่นเอง
ทนายความหรือนักกฎหมายท่านใด ที่รับเป็นทนายความ ให้กับจำเลยในคดีฉ้อโกงประชาชนที่เป็นคดีในลักษณะเดียวกับดารุมะซูชิ ก็ลองตรวจสอบดูนะครับว่าคดีที่รับทำนั้น เข้าเงื่อนไขทั้ง 3 ข้อหรือไม่อย่างไร ___""
#คดีโลกคดีธรรม
อ้างอิงจาก: fb กลุ่ม คดีโลก คดีธรรม