รัฐบาลเตรียมดัน "การปั๊มลูก" เป็นวาระแห่งชาติเร่งด่วน!
นโยบายนี้ทำไมมันดูคุ้นๆ เหมือนกับของญี่ปุ่นยังไงไม่รู้ ล่าสุด ทางรัฐบาลเตรียมดัน "การปั๊มลูก" ให้เป็นวาระแห่งชาติเร่งด่วน คาดว่าน่าจะภายในเดือน มีค.นี้ เผยอีกว่า การมีลูกน้อยทำให้มีผลกระทบกับเศรษฐกิจ สังคม และก็สาธารณสุขด้วย
เมื่อวันที่ 14 กพ.67 ทางด้าน "น.ส.เกณิกา อุ่นจิตร์" รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมากล่าวว่า รัฐบาลและกระทรวงสาธารณสุข นำโดย "นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว" รมว.สาธารณสุข และ "นายสันติ พร้อมพัฒน์" รมช.สาธารณสุข ก็ได้มอบหมายให้ทางกรมอนามัย ออกมาขับเคลื่อนนโยบายส่งเสริมการเกิดอย่างมีคุณภาพ ภายใต้แนวคิด “Give Birth Great World การเกิดคือการให้ที่ยิ่งใหญ่” โดยสนับสนุนให้โรงพยาบาลในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขทุกแห่ง ทำการจัดตั้งคลินิกส่งเสริมการมีบุตร บริการให้คำปรึกษา วางแผนการตั้งครรภ์ วินิจฉัย และรักษาภาวะการมีบุตรยาก รวมถึงการเพิ่มศักยภาพในการให้บริการรักษาภาวะมีบุตรยาก ด้วยวิธีการฉีดน้ำเชื้อเข้าโพรงมดลูก (IUI) และพัฒนาศักยภาพโรงพยาบาล เพื่อให้สามารถให้บริการทำเด็กหลอดแก้ว (IVF) ได้มากขึ้น
น.ส.เกณิกา ได้กล่าวต่ออีกว่า รัฐบาลมีนโยบายผลักดัน และส่งเสริมการมีบุตรอย่างมีคุณภาพ ในการพัฒนาประชากรให้เป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้เกิดการบูรณาการทุกภาคส่วนในการร่วมกันแก้ไขปัญหา ซึ่งคาดว่าจะมีการประกาศออกมาในเดือน มี.ค.นี้
โดยมีสาระสำคัญคือ มาตรการส่งเสริมการมีบุตร ทั้งเรื่องความสมดุลการทำงานกับการดูแลครอบครัว การแบ่งเบาค่าใช้จ่ายและภาระในการเลี้ยงดูบุตร การช่วยเหลือคนที่มีบุตรยาก รวมไปถึงการแก้ไขกฎหมาย ที่เป็นอุปสรรคต่อการเข้าถึงเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ ในกลุ่มที่มีความหลากหลายทางเพศ กลุ่มหนุ่มโสด และสาวโสดที่อยากมีบุตรแต่ไม่อยากมีคู่ ให้มีโอกาสที่จะมีบุตรได้
เพราะถ้าหากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ คาดว่าในอีก 60 ปี ข้างหน้า จำนวนประชากรไทยจะลดลงถึงครึ่งหนึ่ง เหลือเพียงแค่ 33 ล้านคน เท่านั้น ซึ่งจะเสี่ยงต่อการขาดแคลนแรงงาน และส่งผลกระทบต่อระบบเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศในอนาคต