"แพรรี่" ลั่น! ทำตัวเองล้วนๆ หลัง "พี่ศรี" ถูกจับ..แถมยังฝากบทสวดเอาไว้ให้คิด

              แพรรี่ อดีตคู่ปรับเก่าของ "พี่ศรี" ลั่น! เพราะพี่ศรีทำตัวเองล้วนๆ หลังถูกจับข้อหาข่มขู่เรียกรับเงินจากเจ้าหน้าที่รัฐ แลกกับการไม่ร้องเรียน แถมยังฝากบทสวดทำวัตรเย็นเอาไว้ให้คิดอีกด้วย

               จากกรณีที่ทาง ตำรวจป้องกันและปราบปรามการทุจริต และประพฤติมิชอบ (ปปป.) ได้เข้าทำการจับกุม "นายศรีสุวรรณ จรรยา" รวมทั้งฝ่ายการเมือง คือ "นายยศวริศ ชูกล่อม" หรือ "เจ๋ง ดอกจิก" สมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติ และ "น.ส.พิมณัฏฐา จิระพุทธิภาคย์" อดีตผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ในกรณีทำการข่มขู่ เพื่อเรียกรับเงินจากทางเจ้าหน้าที่รัฐ แลกกับการไม่ร้องเรียน หรือกลั่นแกล้งไม่ถูกตรวจสอบ ตามข้อร้องเรียนของ "นายณัฏฐกิตติ์ ของทิพย์" อธิบดีกรมการข้าว  ซึ่งล่าสุดทั้ง 3 คนนั้น ก็ได้รับการประกันตัวออกมาแล้ว โดยได้ปฏิเสธทุกข้อหา และพร้อมที่จะสู้คดีให้ถึงที่สุดด้วย

               เมื่อวันที่ 27 มค.67 ทางด้าน "แพรรี่ ไพร์วัลย์ วรรณบุตร" ก็ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงกรณีดังกล่าวเอาไว้ว่า ตนฝากอะไรถึงพี่ศรีหน่อย ขอฝากบทสวดทำวัตรเย็น “ยัง กัมมัง กะริสสันติ, กัลฺยาณัง วา ปาปะกัง วา, ตัสสะ ทายาทา ภะวิสสันติ  เมื่อทำกรรมอย่างใดอย่างหนึ่ง กรรมดีก็ตาม กรรมชั่วก็ตาม จักต้องเป็นผู้ได้รับผลของกรรมนั้นๆ” และ “สุทธิ อสุทธิ ปัจจัตตัง ความหมดจดก็ดี ความไม่หมดจดก็ดี เป็นของเฉพาะตน”

              แพรรี่ ได้กล่าวต่อว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเวรกรรม ไม่ได้เกี่ยวว่าเขาไปร้องเรียนคนอื่นมา จึงเป็นเวรกรรม คนพุทธเข้าใจผิดกันไปเอง พี่ศรีแกจะผิดหรือไม่ผิด แกจะถูกตำรวจจับหรือไม่นั้น มันเป็นเพราะการกระทำของแกเองล้วนๆ

               แพรรี่ ได้กล่าวต่ออีกว่า ต่อให้แกไปร้องเรียนเป็นร้อยเป็นพัน ตำรวจก็ไม่มีสิทธิ์จะไปจับเขา เพราะว่าเขาทำตามช่องทางของกฎหมาย แต่ที่เขาถูกจับ เพราะว่าเขาทำตัวเขาเองล้วนๆ ไม่ใช่เพราะไปร้องเรียนคนอื่น พี่ศรีแกก็จบกฎหมาย ดิฉันถึงกับ งง ว่าเรื่องง่ายๆ แค่นี้ทำไมถึงมาพลาดได้ และเมื่อวานตำรวจก็ได้ออกมาแถลงข่าวว่าหลักฐานแน่นหนา ก็คงให้กำลังใจแกไปสู้คดีต่อไป

              ตนไม่ได้ขยี้แต่อย่างใด เรื่องส่วนตัวกับพี่ศรีนั้น ไม่มีอะไรเลย มันจบลงไปนานแล้ว ตั้งแต่ที่แกมาขอโทษตอนนั้น แกยังจุ๊บแก้มดิฉันอยู่เลย และแกก็เพิ่งจะไปบวชมา ดิฉันก็ยังอนุโมทนากับแกอยู่เลย

              “พระพุทธเจ้า ท่านบอกว่า ยาพิษไม่มีทางซึมเข้าฝ่ามือที่ไม่มีบาดแผล คนเราจะดีจะเลว อยู่ที่การกระทำล้วนๆ ไม่มีใครเอาความเลวมาป้ายให้ใครได้ ไม่มีค่ะ ชีวิตเราเหมือนกับฝ่ามือ ถ้าไม่มีแผลไม่ต้องกลัว ถ้าเรามีแผลต้องระวังให้ดี ยิ่งทำหน้าที่ตรวจสอบคนอื่น ร้องเรียนคนอื่น  เราต้องอยู่ในจุดที่เรามั่นใจว่า เราสะอาด ไม่มีบาดแผล คนอื่นจะสาดยาพิษใส่เรายังไง มันก็ไม่แปดเปื้อนเรา เราต้องมั่นใจอย่างนั้น เรื่องเงินนั้นอันตรายที่สุด จงอยู่ให้ไกล อย่าไปอยากได้ อย่าไปอยากเอา อยู่ให้ไกลเข้าไว้ และจนอย่างมีศักดิ์ศรี ดีกว่ามีกินเพราะรับสินบน” แพรรี่กล่าว