ผู้ประกอบการรับซื้อผลปาล์มร่วง โทษรุนแรง พบกระทำผิดจับกุมทันที

            สำนักงานพาณิชย์จังหวัดกระบี่ ออกประกาศแนวทางการตรวจสอบผู้ประกอบการจุดรับซื้อผลปาล์มน้ำมัน (ลานเท) เกี่ยวกับข้อกฎหมายการแยกขายทลายปาล์มและผลปาล์มร่วง ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ มาตรา 25 (3) ห้ามมิให้ผู้ประกอบการจุดรับซื้อผลปาล์มน้ำมัน (ลานเท) กระทำด้วยประการใดๆ เพื่อให้ผลปาล์มน้ำมันร่วงอย่างไม่เป็นธรรมชาติ ไม่ว่าจะโดยใช้ตะแกรง บางทีสำหรับลำเลียงทะลายปาล์มน้ำมันที่เป็นตะแกรง อุปกรณ์หรือสิ่งอื่นใดสำหรับแยกผลปาล์มน้ำมันร่วง

            มาตรา 37 ผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามประกาศของคณะกรรมการตามมาตรา 25 (3) ต้องระวังโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

            สำหรับพฤติการณ์การดำเนินการตรวจสอบ หากพบเห็นกำลังกระทำ หรือมีหลักฐานชัดแจ้งว่า กระทำซึ่งเป็นความผิด ซึ่งน่าสามารถจับกุมดำเนินคดีได้ทันที

            หรือหากพบพยานหลักฐานที่สงสัยว่า มีพฤติกรรมทำให้ผลปาล์มน้ำมันร่วงอย่างไม่เป็นธรรมชาติ สืบสวนรวบรวมพยานหลักฐานร้องทุกข์สำนักงานสอบสวน จะมีการตรวจสอบด้านสถานภาพแวดล้อมของสถานประกอบการนั้นๆ

            ประธานชมรมผู้ประกอบการลานเทปาล์มน้ำมันจังหวัดกระบี่ ให้ข้อมูลว่าถือเป็นสิ่งที่ดี เพราะตนเองได้มีการรณรงค์มาหลายปีแล้วเกี่ยวกับการแยกรับซื้อผลปาล์มน้ำมันแบบทะลายและแบบร่วง ซึ่งส่งผลดีต่อลานเทและเกษตรกร

            ชาวบ้านจะได้ราคาผลผลิตดีขึ้น เปอร์เซ็นต์น้ำมันเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ราคาเพิ่มขึ้น โรงงานก็จะได้ผลปาล์มน้ำมันที่สกัดเปอร์เซ็นต์น้ำมันได้สูงขึ้น จึงส่งผลให้การรับซื้อราคาสูงขึ้นตามมา

            อีกด้าน ผู้ประกอบการลานเทที่รับซื้อปาล์มร่วง ให้เหตุผลว่า ชาวสวนจะได้รับผลเสียมากกว่า ผลดี เพราะบางโรงงานก็ยังมีการรับซื้อลูกร่วงปกติอยู่ดี และในราคาที่แพงกว่า และลานเทที่ไม่ได้อยู่สายส่งเดียวกันอาจจะโดนตัดราคาได้

            ทำให้ผู้ประกอบการลานเทที่ไม่ส่ง จะได้รับผลกระทบในการรับซื้อราคาใกล้เคียงกัน อาจจะต้องไปส่งโรงงานในราคาที่ไม่เป็นธรรม และยังส่งผลไปยังพี่น้องเกษตรกรอีกด้วยในเรื่องของราคาและการคัดเปอร์เซนต์น้ำมันที่ไม่เป็นธรรม

สรุป

            กฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ทั่วประเทศแล้ว โดยห้ามมิให้ผู้ประกอบการจุดรับซื้อผลปาล์มน้ำมัน(ลานเท) กระทำด้วยประการใดๆ เพื่อให้ผลปาล์มน้ำมันร่วงอย่างไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งผู้ที่ฝ่าฝืนมีโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

            อย่างไรก็ตาม ยังมีผู้ประกอบการบางส่วนไม่เห็นด้วยกับกฎหมายฉบับนี้ เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้ชาวสวนได้รับผลเสียมากกว่าผลดี