อึ้ง!! แม่หญิงสาวถูกเพื่อนร่วมงานวางยา..โดยเทน้ำยาล้างห้องน้ำในกระติก
คนเราในทุกวันนี้ไม่รู้ว่าจิตใจทำด้วยอะไรกันแน่ มีปัญหาอะไรนิดหน่อย เอ๊ะอะก็จะเล่นถึงตายท่าเดียว ไม่กลัวบาปกรรมเอาซ่ะเลย อย่างรายล่าสุด มีลูกสาวได้ออกมาโพสต์ว่า คุณแม่ของเธอถูกเพื่อนร่วมงานวางยาในกระติกน้ำดื่มส่วนตัว โดยเทน้ำยาล้างห้องน้ำลงไป พอทราบเรื่อง เลยรีบนำตัวคุณแม่ส่ง รพ.เป็นการด่วน เตรียมเข้าแจ้งความข้อหาพยายามฆ่าแล้ว
โดยเรื่องราวนี้กำลังเป็นที่สนใจของกระแสสังคมขณะนี้ โดยมีบัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊คที่ชื่อ Niparpon Suwanphan ได้ออกมาโพสต์ข้อความมีเนื้อหาว่า คุณแม่ของเธอนั้น ถูกพนักงานด้วยกันนำน้ำยาล้างห้องน้ำมาใส่กระติกน้ำให้แม่กิน โดยเธอกล่าวว่า
“วันนี้พนักงานด้วยกันแอบเทน้ำยาล้างห้องน้ำใส่ในกระติกส่วนตัวให้แกกิน แม่เราอายุ 54 แล้ว แม่โทรมาบอกเราว่า คลื่นไส้อาเจียน โทรหาน้องชายไปรับ และส่งไปรพ.ทุ่งสง เพื่อตรวจดูอาการ เบื้องต้นเจอสารพิษจริง ในกระเพาะอาหาร ส่วนเรื่องคดีความขอเอาเรื่องเฉพาะบุคคลให่ถึงที่สุดคะ เรื่องนี้มอบให้ทนายความปิยะวัฒน์จัดการแล้วค่ะ”
โดยได้ทำการอัพเดตอีกว่า อาการของคุณแม่นั้น ยังปวดหัว ท้องเสีย อาเจียน อยู่เป็นระยะๆ
โดยคุณแม่ของเธอ อายุ 57 ปี เป็นชาว ต.ปากแพรก อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช พร้อมด้วยนายปิยวัฒน์ สิริพันธ์พงษ์ ทนายความ ได้เข้าร้องเรียนกับผู้สื่อข่าวว่า ทำงานรับจ้างล้างแก้วที่ร้านน้ำชาแห่งหนึ่ง ใน อ.ทุ่งสง เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม ที่ผ่านมา เพื่อนพนักงานคนหนึ่งที่ไม่ค่อยถูกกัน เดินไปหลังร้าน มีพฤติกรรมที่น่าสงสัยว่า จะเป็นคนเอาน้ำยาล้างห้องน้ำใส่กระติกน้ำดื่มส่วนตัว
หลังจากที่ได้ดื่มน้ำในกระติกไปแล้ว ก็เกิดอาการเจ็บคอ คลื่นไส้ เวียนหัว จึงได้ขออนุญาตทางเจ้าของร้านกลับบ้าน ระหว่างทางก็มีอาการคลื่นไส้ และเวียนหัวอย่างหนัก จึงได้หยุดพักที่ร้านแห่งหนึ่งที่ลูกชายทำงานอยู่ ก่อนที่จะให้ลูกชายร้องขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่กู้ภัย เพื่อนำตัวส่ง รพ.
แพทย์ได้ตรวจพบสารพิษในร่างกาย และให้นอนพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นเวลา 14 วัน โดยอนุญาตให้กลับบ้านได้ในวันที่ 25 ธันวาคม จึงได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.ทุ่งสง เอาไว้แล้ว
ทนายความ ได้เผยถึงความคืบหน้าในคดีนี้ว่า เมื่อช่วงเที่ยงที่ผ่านมา ได้เดินทางไปติดตามความคืบหน้าเรื่องคดีนี้กับทางพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี ซึ่งก็อยู่ระหว่างการส่งตัวอย่างน้ำในกระติกให้ทางผู้เชี่ยวชาญเพื่อตรวจพิสูจน์ ว่าในน้ำนั้นมีสารพิษชนิดใด มีอันตรายมากน้อยอย่างไร ถึงชีวิตหรือไม่ ซึ่งภายหลังทราบผลของสารพิษในน้ำแล้วว่า มีผลต่อชีวิตของทางผู้เสียหาย อาจจะมีการเข้าแจ้งความในข้อหาพยายามฆ่าต่อไป