ไร้ทางสู้ ดอกเบี้ยมหาโหด ตายอมตาย เพื่อให้ยายได้เงินใช้หนี้
คุณยายยุพิน นามสมมติ อายุ 60 ปี ได้เดินทางจากจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อมาร้องเรียนต่อ
นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ หรือ เอกสายไหมต้องรอด หลังจากเกิดเหตุเศร้าสลดขึ้นกับครอบครัวตนเอง
นั่นเพราะสามีอันเป็นที่รัก ได้ตัดสินใจผูกคอตาย เพื่อหวังจะนำเงินฌาปณกิจมาใช้หนี้กู้นอกระบบ
เนื่องจากไม่มีเงินจ่ายดอก เพราะดอกลอยวันละ 3,000 บาท
คุณยายมีอาชีพขายหอมแดงและกระเทียม เลี้ยงตนเองและหลานอีกสองคน คนนึงอยู่ ม. 5 และอีกคน 5 ขวบ
ปกติคุณยายจะมีรายได้มาจากการค้าขาย แต่พอหลังจากวิกฤตโควิดทำให้ค้าขายไม่ได้กำไรเท่าที่เคยเป็น จึงได้ตัดสินใจ
กู้ยืมเงินทั้งในและนอกระบบ เพื่อนำมาใช้ลงทุนในการค้าขาย แต่เมื่อขายได้ไม่ดีทำให้ต้องกู้เงินมาเพิ่มอีก จนมีเจ้าหนี้ 7 ราย
โดยยอดรวมของดอกเบี้ยในแต่ละวันคือ 3,000 บาท
จนเมื่อไม่นานที่ผ่านมา นายสุดหล่อเจ้าหนี้จอมโหดที่ชอบโทรมาทวงเงินเป็นประจำ แถมยังด่าทอด้วยถ้อยคำ
ที่หยาบคายรุนแรง ผ่านหมายเลขโทรศัพท์ของคุณตาซึ่งเป็นสามีของคุณยายยุพิน (นามสมมติ) คุณตาจึงบอกไปว่า
ไม่มีเงินจ่ายทั้งเนื้อทั้งตัวมีเงินอยู่เพียง 103 บาทเท่านั้น ขอจ่าย 70 บาท ก่อนได้ไหม แต่นายสุดหล่อไม่ยอม
ตาจึงต้องโอนเงินไปให้ 100 บาท ทั้งที่ทั้งวันนั้นยังไม่ได้กินข้าวเลย
คุณตาจึงมาปรึกษาคุณยายว่าตอนนี้ทั้งเนื้อทั้งตัวนั้นเหลือเงินเพียงแค่ 3 บาท และพรุ่งนี้เจ้าหนี้จะมาทวงเงินอีก
พร้อมบอกว่าหากหาเงินไม่ได้ต้องมีใครสักคนตายเพื่อเอาเงินมาใช้หนี้ ตาจึงได้ออกอุบายว่าให้ยายไปตามหลานเขยมาที่บ้าน
คุณยายจึงยอมไปตาม แต่เมื่อกลับมาถึงบ้าน ก็พบว่าบ้านล็อค จึงให้หลานเขยปีนขึ้นไปดูตามช่องบ้าน ก็พบว่า
คุณตานั้นได้ผูกคอตายเสียแล้ว
คุณยายยุพินเล่าว่า ตนเป็นคนไปยืใเงินเพื่อมาใช้จ่ายในครอบครัว มีเจ้าหนี้ในระบบคือ ธกส. และ
หนี้นอกระบบอีก 7 เจ้า บางส่วนไม่ได้ทวงแบบรุนแรง แต่ตนก็ไม่มีจ่าย หลังจากที่ตาเสียชีวิตได้เงินฌาปณกิจมา 160,000 บาท
ธกส. หักไป 100,000 บาท เหลือ 60,000 บาท ค่างานศพ 80,000 บาท แต่เงินไม่พอชาวบ้านก็ช่วยกันทำบุญเพิ่ม
และรวบรวมได้ทั้งหมด 40,000 บาท โดยแบ่งไปจ่ายเจ้าหนี้ที่ทวงในงานศพตา 20,000 บาท จนทำให้
ตอนนี้ยายไม่มีเงินเหลือเลยแม่แต่บาทเดียว และยายก็ยังไม่ทราบยอดหนี้ที่ต้องจ่ายแน่ชัดว่าจะต้องจ่ายเพิ่มอีกเท่าไหร่
คุณยายเล่าต่อว่า ถ้าตนตายตามไปทุกอย่างก็คงจบ หนี้ก็คงหมดสักที แต่ที่ไม่ทำเพราะว่าเป็นห่วงหลานทั้งสองคน
สิ่งที่ต้องการที่สุดตอนนี้ คือ อยากให้มีคนช่วยเจรจาผ่อนหนักให้เป็นเบา เพราะหนี้ที่เป็นอยู่นั้นตนไม่มีกำลังที่จะจ่ายอีกแล้ว
หลังจากเพจสายไหมต้องรอดรับเรื่องแล้ว จะพาคุณยายเดินทางไปพลพล.ต.ต.สุทธิพงศ์ เป๊กทอง
ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดอุตรดิตถ์ เพื่อหารือแนวทางในการเจรจาไกล่เกลี่ยหนี้