แทบช็อก! สาวเจอบิลอาหารกว่า 2 ล้านบาท..หลังเผลอโพสต์ QR Code ลง WeChat

               แทบช็อก! เมื่อหญิงสาวชาวจีนคนหนึ่งได้เผลอไปโพสต์รูปที่มี “คิวอาร์โค้ด” สั่งอาหาร ลงในสื่อออนไลน์ WeChat จนทำให้บรรดาชาวเน็ตเป็นจำนวนมาก พากันกลั่นแกล้งเธอ โดยใช้มันกดสั่งเมนูต่างๆ ในนามชื่อของเธอ ก่อนที่จะถูกแจ้งบิลค่าอาหารราว 430,000 หยวน หรือประมาณ 2.1 ล้านบาท 

               โดยหญิงแซ่ “หวัง” คนนี้ ได้เล่าว่า เธอตั้งใจที่จะโพสต์รูปอาหารที่เธอกับบรรดาเพื่อนๆ ไปนั่งทานด้วยกันที่ร้านหม้อไฟแห่งหนึ่งเมื่อวันที่ 23 พ.ย. ที่ผ่านมา แต่ไม่ทันได้สังเกตว่า มันมีคิวอาร์โค้ดที่ถูกแปะอยู่ข้างๆ โต๊ะสำหรับกดสั่งอาหาร และชำระเงินติดอยู่ในรูปนั้นด้วย
              แม้ว่าเธอจะโพสต์รูปลงใน WeChat Moments ซึ่งถูกตั้งค่าให้มองเห็นได้เฉพาะเพื่อนเท่านั้น แต่ก็ปรากฏว่าได้มีผู้คนเป็นจำนวนมากเริ่มนำเอาโค้ดนี้ไปใช้กดสั่งอาหาร
              เธอเพิ่งจะมารู้ตัวว่าพลาดไปแล้ว หลังจากที่ทางพนักงานของร้านนั้นได้เดินมาขอคำยืนยันว่า เธอต้องการที่จะสั่งอาหารมูลค่า 430,000 หยวนจริงๆ หรือไม่

              ดังนั้น เธอจึงได้ตัดสินใจที่จะลบโพสต์ดังกล่าวทันที แต่ก็ยังคงมีออเดอร์ถูกสั่งมาในนามโต๊ะของเธออยู่เรื่อยๆ ซึ่งเธอเองเข้าใจว่าคงจะมีใครสักคนดาวน์โหลดภาพดังกล่าวนี้ไปแล้ว ก่อนที่เธอจะลบมันทิ้งไป

              จากภาพสกรีนช็อตที่เธอนำมาแชร์เพื่อเป็นอุทาหรณ์ ออเดอร์ที่พวกบรรดาชาวเน็ตต่างตะลุยกันสั่งในนามของเธอนั้น ประกอบด้วยไปเลือดเป็ดสด 1,850 ชิ้น, ปลาหมึก 2,850 จาน และกุ้งบดอีก 9,990 จาน ซึ่งแต่ละจานก็มีสนนราคาอยู่หลายสิบหยวน

               แต่ยังโชคยังดีที่ทางร้านไม่ได้บังคับให้เธอต้องจ่ายเงินตามออเดอร์เหล่านั้น โดยหลังจากที่ทราบว่ามีความผิดพลาดเกิดขึ้นแล้ว ทางพนักงานของร้านก็ได้ย้ายเธอกับบรรดาเพื่อนๆ ไปนั่งที่โต๊ะใหม่ และก็มองข้ามออเดอร์ทั้งหมดที่ถูกสั่งเข้ามาเพิ่มอยู่เรื่อยๆ
               เธอยอมรับว่า นี่เป็นบทเรียนราคาแพงสำหรับเธอ พร้อมกับเตือนให้ทุกคนได้ตระหนักถึงเรื่องความปลอดภัยของข้อมูล และใช้ความระมัดระวังมากขึ้น ก่อนที่จะโพสต์ภาพหรือข้อมูลใดๆ ลงในสื่อออนไลน์

               "หลิน เสี่ยวหมิง" ทนายความจากบริษัทกฎหมาย Sichuan Yishang Law Firm ได้ให้สัมภาษณ์กับทางสื่อจีนว่า เนื่องจาก “ออเดอร์ปลอม” ที่ถูกส่งเข้ามานั้น ไม่ได้เกิดจากเจตนาของ "หวัง" ดังนั้นจึงถือว่าเป็น “โมฆะ” ทั้งหมด และทางร้านอาหารที่เผชิญกับปัญหาในลักษณะนี้มีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธออเดอร์ หรือแม้กระทั่งทำการฟ้องร้องเรียกเงินจากบรรดาชาวเน็ตเหล่านั้น หากทำให้ทางร้านต้องเกิดความเสียหายได้อีกด้วย