ป.ช.ช. แจงข้อมูลในข่าวคลาดเคลื่อน พบเจ้าหน้าที่จัดซื้ออาหารไม่ทำตามระเบียบ-ทำเอกสารเท็จ แต่มีชื่อ ‘ครูชัยยศ’ เซ็นรับรอง ผิดทั้งอาญาและวินัย จึงถูกปลดจากราชการ
จากกรณีที่ นายชัยยศ สุขต้อ ครูโรงเรียนบ้านยางเปา อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ถูกคณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดทางอาญาและวินัย และ สพป.เชียงใหม่ เขต 5 มีคำสั่งปลดออกจากราชการ สืบเนื่องจากการที่ครูชัยยศ ซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมตรวจรับอาหารกลางวัน นำอาหารในส่วนของนักเรียนชั้นประถมฯ ไปแบ่งให้นักเรียนชั้น ม.ต้น รับประทาน เป็นการปฏิบัติหน้าที่มิชอบและไม่เป็นไปตามระเบียบนั้น
นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า จากการไต่สวนข้อเท็จจริงฟังได้ว่า โรงเรียนบ้านยางเปา เป็นโรงเรียนในสังกัด สพป.เชียงใหม่ เขต 5 ได้มีการขออนุญาตให้ดำเนินการจัดการเรียนการสอนในระดับอนุบาล ระดับประถมศึกษา และระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โดยมีนักเรียน 2 ประเภท คือ นักเรียนไปเช้ากลับเย็น และนักเรียนพักนอน
นักเรียนพักนอนได้รับการสนับสนุนค่าอาหารจาก สพป.เชียงใหม่ เขต 5 ส่วนนักเรียนระดับประถมฯ จะได้รับการสนับสนุนค่าอาหารกลางวันจาก อบต.อมก๋อย
เมื่อปี 2561 โรงเรียนบ้านยางเปา มีนักเรียนระดับประถมฯ และอนุบาล จำนวน 235 คน นักเรียนระดับมัธยมฯ จำนวน 244 คน โดยมีนักเรียนพักนอน (รวมประถมฯ และมัธยมฯ) จำนวน 169 คน
การดำเนินการจัดหาอาหารกลางวัน กำหนดให้โรงเรียนต้องดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ.2560 และจะจ่ายเงินได้เมื่อมีการตรวจรับและลงลายมือชื่อของคณะกรรมการตรวจรับครบถ้วน
โดยนายจรัส สุพรรณ์ ผอ.โรงเรียนบ้านยางเปา ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจัดซื้อ และตรวจรับอาหารกลางวันนักเรียนฯ มีนางบุณยนุช ใจปินตา เป็นเจ้าหน้าที่จัดซื้ออาหาร, นางจิราพรรณ จาตุนันท์ และนายชัยยศ สุขต้อ เป็นกรรมการตรวจรับ
การจัดหาอาหารกลางวันสำหรับนักเรียนพักนอน ปี 2561 จำนวน 15 สัปดาห์ ปรากฏว่า นางบุณยนุช ใจปินตา ไม่ได้ดำเนินการขออนุมัติจัดซื้อตามแบบรายการและเอกสารของทางราชการที่กำหนด โดยนางบุณยนุช ทำบันทึกขออนุมัติยืมเงินโครงการอาหารกลางวันนักเรียน เงินปัจจัยพื้นฐานนักเรียนยากจน และอาหารนักเรียนพักนอนเป็นรายสัปดาห์ ซึ่งนายจรัสได้อนุมัติให้ยืมเงินสำหรับโครงการอาหารกลางวันฯ โดยไม่ได้สั่งการให้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างตามระเบียบของทางราชการ
เมื่อนางบุณยนุช ได้ทำการยืมเงินโครงการอาหารกลางวันฯ สัปดาห์ละประมาณ 60,000 บาท แล้ว นางบุณยนุช เป็นผู้ดำเนินการจัดหาวัตถุดิบเพื่อประกอบอาหารและจ้างคนครัวเพื่อประกอบอาหารเอง ไม่เกินสัปดาห์ละ 48,500 บาท (โดยไม่มีการทำสัญญาจ้างและไม่มีหลักฐานการเข้ามาประกอบอาหารแต่อย่างใด)
โดยในส่วนเงินที่เหลือประมาณสัปดาห์ละ 10,000 บาท จำนวน 15 สัปดาห์ เป็นเงิน 172,240 บาทนั้น พบว่า ในระหว่างสัปดาห์ นางบุณยนุช ได้มีการจัดซื้อเพิ่มเติมจาก 2 แห่ง แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าแต่ละสัปดาห์ได้มีการจัดซื้อเป็นจำนวนเท่าใด และไม่ได้ขอใบเสร็จรับเงินจากร้านค้า
เมื่อตรวจสอบเอกสารชดใช้เงินยืมนางบุณยนุช ได้จัดพิมพ์ใบรับรองรายการจ่ายเงินค่าอาหารเป็นเท็จ ซึ่งนางจิราพรรณ และนายชัยยศ ซึ่งเป็นกรรมการตรวจรับได้ลงลายมือชื่อรับรอง และนางบุณยนุช จึงได้นำใบรับรองดังกล่าวมาเป็นหลักฐานการใช้จ่ายเงินแทนใบเสร็จรับเงิน
คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้ว ทั้ง 4 คน มีมูลความผิดทางอาญา และมีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุดเพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี
และส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐานและคำวินิจฉัย ไปยังผู้บังคับบัญชาเพื่อดำเนินการทางวินัยตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตพ.ศ.2561มาตรา 91 (1) และ (2) แล้วแต่กรณีต่อไป
การกระทำของผู้ถูกกล่าวหา จะเห็นได้ว่ามีประเด็นที่คลาดเคลื่อนจากการนำเสนอข่าว จำนวน 2 ประเด็น คือ ยอดเงินในส่วนเงินที่เหลือประมาณสัปดาห์ละ 10,000 บาท รวม 15 สัปดาห์ เป็นเงินจำนวน 172,240 บาท ที่ไม่สามารถแจกแจงรายละเอียดได้
และจากการเผยแพร่ข่าวของสื่อมวลชนว่า นายชัยยศถูกปลดออกจากราชการ สืบเนื่องจากการที่นายชัยยศ ซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการตรวจรับอาหารกลางวัน นำอาหารในส่วนของนักเรียนชั้นประถมฯ แบ่งให้นักเรียนชั้น ม.ต้นรับประทาน นั้น เป็นการเผยแพร่ข้อความที่คลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง
อ้างอิงจาก: youtube live สด ช่อง 3 HD