วงการครูนี่แปลก ไล่ครูออกเพียงเพราะทำอาหารเลี้ยงเด็กยากจน
อาชีพครู หรือ ข้าราชการครู เป็นอาชีพที่ใครหลาย ๆ คนมองว่าสบาย แต่จริง ๆ แล้วไม่ใช่อย่างที่คิด
เป็นอาชีพที่ต้องต่อสู้กับนโยบาย กับคำสั่งจากเบื้องบน ผู้ปกครอง และอะไรอีกมากมาย อันนี้พูดในภาพรวมนะคะ
ไม่ได้มีเจตนาเข้าข้างครู แต่ได้สัมผัสมา อาชีพนี้ไม่ได้สบายอย่างที่คิด เหมือนเอาทุกอาชีพมารวมไว้ในอาชีพเดียว
ไม่ว่าจะเป็นหมอพยาบาล นักจิตวิทยา พนักงานธุรการ พนักงานการเงิน พนักงานจัดซื้อจัดจ้าง ฯลฯ
จริง ๆ แล้วมันไม่ได้สบายอย่างที่คิดหรอกค่ะ มันออกแนวลำบากทั้งกายและประสาทเสียทั้งคนด้วย
อย่าบอกว่าเงินเดือนเยอะเลยค่ะ มามองกับสิ่งที่ฝ่าฟันในแต่ละวันดีกว่าว่าคุ้มกับสุขภาพร่างกายที่ทรุดโทรม
สุขภาพจิตใจที่พังทลาย น้อยมาก ๆ ที่จะสบาย ถ้าสบายหน่อยก็ช่วงปิดเทอม แต่ๆๆ อย่าคิดว่าช่วงปิดเทอม
จะไม่ต้องทำอะไรเลยนะคะ เพราะยังมีการเตรียมเอกสารวางแผนการสอนส่ง อบรมสัมมนาต่าง ๆ อารมณ์เหมือน
Work form home เป็นครั้งคราวซะมากกว่า ถ้าเป็นช่วงเปิดเทอม วันเสาร์อาทิตย์ก็ยังต้องมาโรงเรียนก็มี
บอกเลยอาชีพนี้ไม่ง่าย เป็นอาชีพที่ต้องเตรียมพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ต้องเสียสละอย่างมาก
ไม่ต่างอะไรกับอาชีพอื่น ๆ เลย ดังเช่นเรื่องราวของคุณครูท่านนี้
ครูชัยยศ สุขต้อ อดีตตำแหน่งครูชำนาญการพิเศษ โรงเรียนยางเปา อ.อมก๋อย จ. เชียงใหม่
ที่ถูก ป.ป.ช กล่าวหา มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานกระทำความผิด ฐานปฏิบัติหรือละเว้น
การปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ฯ สืบเนื่องจาก ครูชัยยศ เป็นกรรมการตรวจรับพัสดุ
อาหารกลางวันนักเรียน ที่อดีตผู้บริหารสถานศึกษาฯ ระบุว่าเป็นการบริหารจัดการอาหารกลาวันเด็ก
จากเด็กอนุบาลและประถม ให้เด็กระดับมัธยาศึกษาได้กินด้วย เพราะส่วนใหญ่เป็นนักเรียนกินนอน
ครอบครัวยากจน
มีรายงานว่า มีผู้ถูกดำเนินคดีจัดซื้ออาหารกลางวัน เด็กนักเรียนโรงเรียนยางเปา มาตั้งแต่ปี 2562 จำนวน 4 คน
ซึ่งมีผู้ที่ถูกปลดออกไปแล้ว มีผอ. และครูอีก 2 คน ซึ่งในนั้นมีครูชัยยศรวมอยู่ด้วย ส่วนครูอีกคนย้ายไปอยู่ที่
สพป. 4 อยู่ระหว่างดำเนินการพิจารณาความผิด
สำหรับ โรงเรียนยางเปา เป็นโรงเรียนที่เปิดการเรียนการสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาล ประถมศึกษา
และมัธยมศึกษาตอนต้น ซึ่งปกติภาครัฐได้จัดงบอาหารกลางวันให้เฉพาะเด็กนักเรียนชั้นอนุบาลและประถมศึกษาเท่านั้น
ทำให้เด็ก ม.ต้น ไม่ได้รับงบประมาณก้อนดังกล่าว ทางผู้บริหารโรงเรียนเห็นว่าเด็ก ม.ต้น กลุ่มนี้ ไม่ได้อยู่กับผู้ปกครอง
และส่วนใหญ่มีฐานะยากจน ไม่มีแม้เงินกระทั่งมาโรงเรียน ทางโรงเรียนจึงได้มีการบริหารจัดการงบประมาณ
เพื่อจัดซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารกลางวัน เพื่อให้เด็กนักเรียนกินนอนที่เรียนชั้น ม.ต้น ด้วยงบประมาณที่มีจำกัด
แต่ความดีไม่เข้าข้าง มีคนร้อง ป.ป.ช. และมีการชี้มูลความผิดในที่สุด จนถูกปลดออกจากราชการ
ปัจจุบันครูชัยยศผันตัวไปขายโรตีที่บ้าน ซึ่งเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่สมัยรับราชการได้พาเด็ก ๆ ที่ยากจน
ไปช่วยกันขายโรตี เพื่อหาทุนการศึกษา
เรื่องราวของครูชัยยศ ได้ถูกเผยแพร่ผ่านเพจ "วันนั้นเมื่อฉันสอน" ซึ่งมีผู้ติดตามกว่า 1.6 แสนคน
พร้อมระบุข้อความว่า "จบแล้วนะครับ กับกรณีครูที่ตรวจรับอาหารกลางวัน แม้ลูกศิษย์ที่เคยเรียนจะยื่นทัดทานอย่างไร
แต่ผลสุดท้ายลงเอยโดยการถูก "ปลดออกจากราชการ" อยู่ดี
ทางเพจยังได้มีการติดตามกรณีครูทำอาหารกลางวันในโรงเรียนขยายโอกาสเลี้ยงเด็กบนดอย
ซึ่งงบประมาณครอบคลุมแค่ ป.6 แต่นำมาเลี้ยงจนถึง ม. 3 คำว่าขยายโอกาส คือ โรงเรียนที่ไม่มีทางเลือก
ยากจนและขาดโอกาส ทำให้คนเป้นครูอดไม่ได้ที่จะยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ทนไม่ได้ที่ต้องเห็นลูกศิษย์ตัวเอง
ต้องทนหิว ไม่มีคำนิยามใดบนโลกบอกว่า เมื่อขึ้นชั้น ม. 1 ความยากจนจะหมดพ้นไป จึงกระทำไปแบบนั้น
ครูชัยยศเองมีชื่อเป็นกรรมการตรวจรับ ซึ่งยอมรับว่าไม่ได้มีความรอบคอบมากพอ จึงโดนหางเลข
ไปด้วย เนื่องจากการเบิกจ่ายไม่เป็นไปตามระเบียบ ผลสุดท้ายไม่ว่าจะทำคุณงามความดีขนาดไหน
ได้รางวัลอะไรมา ส่งเด็กไปถึงฝั่งฝันแล้วกี่คนแล้วก็ตาม ต่อให้อุทิศเวลาเพื่อการสอนเด็กทั้งชีวิต
แต่เส้นทางราชการก็ต้องสิ้นสุดไม่มีใครช่วยเหลือ ไม่มีอะไรมาปกป้องได้
ครูชัยยศคนหนึ่งที่ใช้เงินตัวเองส่งเสียบูกศิษย์บ่มเพาะและสั่งสอนจนเรียนจบได้ดีมีการมีงาน
มั่นใจอย่างแน่แท้ว่าเขาไม่ได้มีประโยชน์จากอาหารกลางวันนี้ แต่ต้องมาจบเส้นทางราชการลง
เพราะมีชื่อเป็นกรรมการตรวจรับทั้งที่เขาไม่เคยได้รับผลประโยชน์อันใดจากมัน
มันน่าสงสัยมาก ๆ เลยนะ ทำไมครูไทยต้องมาทำงานอะไรแบบนี้ เนื้อไม่ได้รองเอากระดูก
มานั่งแขวนคอ เมื่อไหร่จะให้ครูได้ต่อสู้แค่กับความไม่รู้ของนักเรียนเพียงอย่างเดียว
อุทาหรณ์ให้กับครูรุ่นใหม่ว่าหากไม่อยากออกจากราชการและอยู่จนเกษียณอย่าไปยุ่งกับการตรวจรับ
ไม่รู้อย่าเซ็นต์ ไม่แน่ใจอย่าเซ็น ไม่ละเอียดอย่าเซ็น ผิดจะมาอ้างว่าไม่รู้ไม่ได้ เพราะไม่มีความดีใด
ปกป้องคุณได้ และเรื่องนี้จะยังเป็นชะตากรรมที่ครูไทยต้องพบเจอสืบไป
ครูชัยยศนั้นได้ทุ่มเทชีวิตสอนหนังสือเด็กนักเรียนพื้นที่ถิ่นทุรกันดาร เด็กนักเรียนให้พื้นที่
อ.อมก๋อย มานาน 26 ปี เคยได้รับรางวัลครูดีเด่นมา 10 รางวัล รางวัลที่ภูมิใจที่สุด คือ รางวัลครูเจ้า
ฟ้ากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ เมื่อปี 2553 ได้เงินรางวัล 2 หมื่นบาท ได้นำมาซื้ออุปกรณ์เรียนรู้ศิลปะ
และทำโครงการให้นักเรียน ได้พานักเรียนขายโรตีจนบางรายเรียนจบไปเป็นหมอ เป็นครู เป็นพยาบาล
และเรียนต่อในระดับสูง ๆ 42 คน