ไว้อาลัย หมอกฤตไท เจ้าของเพจ สู้ดิวะ
นพ.กฤตไท ธนสมบัติกุล อายุ 28 ปี เจ้าของเพจ สู้ดิวะ ผู้ถ่ายทอดประสบการณ์ป่วยมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ๆ ทั้งที่ตัวเองอายุยังน้อย ออกกำลังกายเป็นประจำพร้อมทั้งดูแลสุขภาพของตัวเองเป็นอย่างดี การตายของนพ.กฤตไท ธนสมบัติกุล สร้างความเสียใจให้กับครอบครัวและคนที่คอยติดตามเรื่องราวของคุณหมออยู่เสมอ
หลายคนคงทราบกันดีว่าสาเหตุที่คุณหมอป่วย สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากฝุ่น PM2.5 เพราะคุณตัวคุณหมอเองไม่สูบบุหรี่ฝุ่น PM2.5 เป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนไทยเป็นมะเร็งปอดทั้งที่ตนเองไม่สูบบุหรี่ ฝุ่น PM2.5 เป็นเหตุสำคัญของมะเร็งปอดชนิดที่มีการกลายพันธุ์ของยีน EGFRซึ่งพบกว่า 50% ของผู้ป่วยมะเร็งปอดชาวไทยโดยเฉพาะคนที่ไม่สูบบุหรี่พบว่าเซลล์ปอดที่มี EGFR กลายพันธุ์ยังไม่สามารถเปลี่ยนเป็นเซลล์มะเร็งจนกระทั่งได้รับ PM2.5 เข้าไปในร่างกาย
เมื่อคุณหมอป่วยเป็นมะเร็งปอดได้สร้างเพจ สู้ดิวะ ในเดือนตุลาคม 2565 คุณหมอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นมะเร็งปอดระยะสุดท้าย ต่อมาในเดือนพฤศจิกายน 2565 คุณหมอได้เปิดเพจ “สู้ดิวะ” เพื่อบอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ของตนเองในขณะที่กำลังรักษาโรคมะเร็ง ผลจากการให้คีโมทำให้มีผมและขนร่วงไปทั่วทั้งร่างกาย
ในระหว่างการรักษาคุณหมอได้อัพเดตอาการป่วยของตนผ่านเพจ และยังใช้เพจ “สู้ดิวะ” เป็นกระบอกเสียงในการสะท้อนปัญหาค่าฝุ่นของภาคเหนือที่เกินมาตรฐานจนส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนเป็นมะเร็งปอดเพิ่มสูงมากขึ้นทุกปีพร้อมทั้งเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขและจัดการปัญหา ฝุ่น PM 2.5 อย่างเด็ดขาดและจริงจังสักที
ในวันที่ 2 มีนาคม 2566 คุณหมอได้โพสต์ข้อความสะท้อนปัญหาฝุ่น PM 2.5 ไว้ว่า
ประเทศเราติดอันดับปัญหาฝุ่นในระดับโลกกันมาติดต่อกันหลายปี ทำไมเราถึงยังไม่เห็นความชัดเจนในการให้ความสำคัญเรื่องคุณภาพอากาศ หรือความชัดเจนในการพยายามหาต้นตอของปัญหาเฉพาะแต่ละพื้นที่ มันไม่ใช่แค่การเผาป่า หรือปัญหารถติด มันมีหลายสาเหตุแหละครับที่ทำให้มีปัญหาฝุ่น
แต่ในประเทศไทยยังไม่มีงานศึกษาที่ชัดเจนและลงลึกถึงสาเหตุ PM2.5 หลักๆ ในประเทศไทยว่าตกลงอะไรคือสาเหตุหรือแหล่งกำเนิดหลักของ PM2.5 ในประเทศไทยแต่ละภาคส่วนกันแน่ มันต้องมีการวิเคราะห์และไปแตะสิ่งที่เป็นรากฐานของปัญหาของฝุ่น PM2.5 อย่างแท้จริงสิ บ้านเราจึงจะสามารถแก้ไขปัญหาฝุ่นได้อย่างยั่งยืนสักที จริงไหมครับ?
หัวใจของนักสู้ไม่เคยยอมแพ้ต่อโรคร้าย
ในช่วงเดือนพฤศจิกายน 2566 และในช่วงต้นปี 2566 คุณหมอได้อัพเดตอาการของตนเองอยู่เรื่อยๆ การรักษาเป็นไปได้ด้วยดี เริ่มวิ่งเริ่มออกกำลังกายได้บ้างแต่ข่าวดีนี้อยู่กับคุณหมอได้ไม่นาน เพราะในวันที่ 2 พฤศจิกายน 2566 คุณหมอได้อัพเดตอาการล่าสุดว่า ตนเองเหลือเวลาอีกไม่นานแล้ว
ก่อนวันที่ 5 ธันวาคม คุณหมอได้จากไปอย่างไม่มีวันกลับ คุณหมอยังมีเรื่องราวทั้งสุขและทุกข์ และการต่อสู้ คุณหมอยังอยู่ในใจขอ พวกเราตลอดไป
หลังจากที่ข่าวคุณหมอเสียชีวิตได้ถูกเผยแพร่ออกไปในโลกออนไลน์ต่างติดแฮชแท็ก สู้ดิวะ พร้อมกับแสดงความเสียใจกับครอบครัวของคุณหมอกับการสูญเสียในครั้งนี้พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแก้ไขปัญหาฝุ่นอย่างเร่งด่วน หลายคนที่เข้ามาแสดงความเสียใจวิพากษ์วิจารณ์และเร่งรัดให้มีการแก้ไขปัญหาฝุ่น PM2.5 อย่างจริงจังสักที
เช่น ชาล็อต ออสติน นักแสดงและนางงามสาวลูกครึ่งไทย-อังกฤษ โพสต์ข้อความระบุว่า
“ขอแสดงความเสียใจด้วยนะคะ บทความที่พี่เขาเขียนทำให้หลายๆ คนตระหนักกับการใช้ชีวิตมากๆ”
เพื่อนของคุณหมอ ที่ออกมาทวีตข้อความระบุว่า
“
หลับให้สบายนะเพื่อน มึงได้ใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าและมีความหมายให้กับโลกใบนี้อย่างมาก ทุกคนภูมิใจและรักมึงเสมอกฤตไท