เด็ก 14 กราดยิงในพารากอน..ไม่รับข้อหาฆ่าผู้อื่น อ้างไม่รู้ตัว
จากเหตุการณ์ที่เด็กอายุเพียง 14 ปี ได้ไปทำการก่อเหตุกราดยิงในพารากอน จนกลายเป็นข่าวโด่งดังไปทั่วโลกนั้น เด็กชายคนดังกล่าวได้ให้การภาคเสธ ที่จะไม่รับข้อหาฆ่าผู้อื่น และอ้างด้วยว่าที่ทำลงไปนั้นเพราะว่าไม่รู้ตัว แต่ยอมรับในข้อหาอาวุธปืน รวมอีกทั้งข้อหาพกพาอาวุธปืนด้วย
เหตุการณ์ดังกล่าวนั้น เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิต 2 ราย และผู้บาดเจ็บอีก 5 ราย โดยในส่วนของผู้เสียชีวิตมีทั้งคนไทย และนักท่องเที่ยวชาวจีน หลังจากที่เกิดเหตุดังกล่าว ทางตำรวจก็ได้เข้าควบคุมตัวคนร้ายที่ทำการก่อเหตุครั้งนี้เอาไว้ได้
โดยคนร้ายที่ทำการก่อเหตุในครั้งนี้ พบว่าเป็นเยาวชนชายอายุเพียง 14 ปีเท่านั้น จากการเข้าตรวจสอบ และทำการตรวจค้นในบ้านพักก็ยังได้พบสิ่งเทียมอาวุธปืนที่ได้นำมาดัดแปลง พร้อมกระสุนปืนอีกด้วย
หลังจากนั้นทางตำรวจก็ได้ควบคุมตัวมือปืน ส่งไปยังศาลเยาวชนและครอบครัวกลาง เพื่อทำการไต่สวน เบื้องต้นทางตำรวจนั้นได้แจ้ง 5 ข้อหาด้วยกัน คือ ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน, พยายามฆ่า, มีอาวุธปืนไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต, พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน ทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และยิงปืนในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต
และสำหรับความคืบหน้า เมื่อวันที่ 25 พ.ย.66 ที่ผ่านมา ได้มีรายงานข่าวจากทางตำรวจเผยว่า หลังจากที่ทางพนักงานสอบสวนได้ แจ้งข้อหากับเยาวชนชายวัยเพียง 14 ปี ที่ทำการก่อเหตุกราดยิงในห้างสยามพารากอน เบื้องต้นนั้นทางผู้ต้องหาได้ให้การภาคเสธ โดยยอมรับในประเด็นอาวุธปืน และให้การเกี่ยวกับอาวุธปืน รวมทั้งข้อหาพกพาอาวุธปืน แต่เยาวชนชายวัยเพียง 14 ปีรายนี้ กลับไม่รับในข้อหาฆ่าผู้อื่น โดยอ้างว่าที่ทำไปนั้น เพราะไม่รู้ตัว
(สำหรับคำว่า "ภาคเสธ" นั้นหมายถึง การแบ่งรับแบ่งสู้ โดยมีทั้งเป็นการให้การรับในข้อเท็จจริงตามข้อหาบางส่วน และมีการปฏิเสธในข้อเท็จจริงตามข้อหาอีกบางส่วน)