นักวิชาการกฎหมาย ชี้ การบังคับขายหุ้นของ "แอน จักรพงศ์" เป็นเรื่องเกี่ยวข้องกับกฎหมายแพ่งและพาณิชย์โดยตรง

""_____ คดีแบบนี้แม้จะ #เป็นคดีเฉพาะทาง และ อาจจะเหมาะสมกับนักกฎหมายด้านการเงิน การลงทุน และตลาดหลักทรัพย์ ซึ่งกฎหมายประเภทนี้ไม่ได้มีสอนโดยตรงในหลักสูตรนิติศาสตร์ แต่จะมีสอนเฉพาะเจาะจงนอกหลักสูตร หรืออาจจะต้องหาร่ำเรียนหรือศึกษากันเอง

#แต่เรื่องการบังคับขายหุ้นจากข่าวนี้ ถือว่าเกี่ยวข้องกับกฎหมายแพ่งและพาณิชย์โดยตรง

ซึ่งนักกฎหมายทั่วไป ก็สามารถทำความเข้าใจและสามารถเข้ามารับทำคดีในลักษณะนี้ได้

กรณีตามข่าว เกิดจาก นักลงทุน ทำสัญญากับ โบรคเกอร์ โดยให้โบรคเกอร์ทำหน้าที่ซื้อขายหุ้นตามที่นักลงทุนต้องการ แต่ปรากฏว่า #มีข้อตกลงเป็นพิเศษเพิ่มขึ้นมา โดยนักลงทุนนอกจากจะใช้เงินของตัวเองในการซื้อขายหุ้นแล้ว #ยังได้มีการกู้ยืมเงินของโบรคเกอร์เพื่อนำไปใช้ในการซื้อขายหุ้นด้วย (กฎหมายเรื่องกู้ยืมเงิน) โดยในการกู้ยืมเงินกันโบรคเกอร์ก็จะคิดดอกเบี้ยในเงินกู้นั้นด้วย

การกู้ยืมเงินของโบรคเกอร์นั้น นักลงทุน ได้นำ ""#หุ้น"" ของตนเองไปเป็นหลักประกันการกู้ยืมเงินด้วย โดยทำในรูปของ ""#การจำนำหุ้น"" (กฎหมายเรื่องจำนำ) โดยมีข้อตกลงกันว่า ""#ถ้าหุ้นที่นำมาจำนำนั้นมีมูลค่าลดลง"" (Margin Call) นักลงทุนมีทางเลือกอย่างน้อย 3 ทาง คือ

ทางที่ 1. จะต้องนำเงินหรือหุ้นมาวางเพิ่มเพื่อทดแทดราคาที่ลดลง
ทางที่ 2. นักลงทุนขอให้โบรคเกอร์ขายหุ้นที่จำนำ
ทางที่ 3. โบรคเกอร์นำหุ้นออกขายเองได้เลย (บังคับขายหุ้น)

กรณีตามข่าว เป็นกรณีที่ 3. คือ โบรคเกอร์ในฐานะเจ้าหนี้เงินที่ให้นักลงทุนกู้ยืมและในฐานะผู้รับจำนำหุ้น ได้ทำการขายหุ้นของนักลงทุน เพราะเห็นว่าหุ้นของนักลงทุนมีมูลค่าลดลง #และนักลงทุนอาจจะไม่ได้นำเงินหรือหุ้นมาวางเพิ่มเติม ซึ่งหากโบรคเกอร์ไม่ขายหุ้น โบรคเกอร์ก็จะขาดทุนได้ #เพราะเมื่อหลักประกันมีราคาลดลง โบรคเกอร์ก็อาจจะไม่ได้รับเงินคืนหรือได้รับคืนไม่ครบจำนวน

คดีที่อาจจะเกิดขึ้นหลังจากที่โบรคเกอร์บังคับขายหุ้น ก็คือ โบรคเกอร์อาจจะฟ้องนักลงทุน เพราะเหตุว่า นักลงทุนไม่คืนเงินที่กู้ยืมและหุ้นที่ขายไปนั้นไม่เพียงพอต่อการชำระหนี้
(เทียบ คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 4005/2552)

ส่วนนักลงทุน #ก็อาจจะมีข้อต่อสู้ได้หลายประเด็น เช่น โบรคเกอร์ขายหุ้นโดยไม่ถูกต้องตามกฎหมายของตลาดหลักทรัพย์ หรือไม่ถูกต้องตามกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยการจำนำ และขายทอดตลาด ซึ่งถ้าฟังไ้ดว่า โบรคเกอร์ขายหุ้นโดยไม่ถูกต้องจริงๆ #ก็จะฟ้องนักลงทุนไม่ได้
(เทียบ คำพิพากษาศาลฎีกา ที่ 1659/2546,5684/2541)

#แต่ทว่า นักลงทุน ดันชิงไปยื่นขอฟื้นฟู้กิจการไว้ต่อศาลล้มละลาย ตามกฎหมายว่าด้วยการล้มละลายและฟื้นฟูกิจการ #จนศาลมีคำสั่งรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการ จึงเกิดผลในทางกฎหมายที่เรียกว่า ""#สภาวะการพักชำระหนี้"" (Automatic Stay) ซึ่งกฎหมายบ้งคับว่า เจ้าหนี้ทั้งหลายของลูกหนี้ห้ามมิให้ฟ้องร้องลูกหนี้ เกี่ยวกับหนี้สิน หรือทรัพย์สินของลูกหนี้ ตามมาตรา 90/12(4) ของ พระราชบัญญัติล้มละลายฯ

หลังจากศาลรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการแล้ว #ศาลก็จะนั่ดไต่สวนคำร้องต่อไปเพื่อพิจารณาว่าจะอนุญาตให้ฟื้นฟูกิจการได้หรือไม่

คดีตามข่าว จึงอยู่ในช่วงระหว่างที่ศาลกำลังนัดเพื่อไต่สวนคำร้องขอฟื้นฟูกิจการอยู่ #ซึ่งบรรดาเจ้าหนี้ทั้งหลาย ก็อยู่ระหว่าง #ติดต่อกับทนายความเพื่อให้เข้าไปคัดค้านการไต่สวนดังกล่าวต่อไป

#ทนายความหลายคนในช่วงนี้ จึงอาจจะได้รับการว่าจ้างจากบรรดาเจ้าหนี้ เพื่อให้เข้าไปเป็นทนายความและทำคำคัดค้านและเข้าไต่สวนในคดีดังกล่าว #ซึ่งก็รวมถึงบรรดาโบรคเกอร์ที่บังคับขายหุ้น และเห็นว่านักลงทุนยังคงมีหนี้ค้างชำระอยู่ก็อาจจะต้องเข้ามาร่วมคัดค้านด้วย _____""

#คดีโลกคดีธรรม