เมียลั่นไม่รอรัฐบาลไทย ลำบากแค่ไหนก็จะสู้ หายืมเงิน 4 หมื่นเป็นค่าตั๋วให้ผัวได้กลับไทย
นางเจนจิรา พรหมหล้า อายุ 38 ปี ภรรยาของนายสุพล นำชำนาญ อายุ 39 ปี
อาศัยอยู่ในจังหวัดขอนแก่น เนื่องจากนายสุพล ได้เดินทางไปเป็นแรงงานไทยในอิสราเอล
ซึ่งเป็นประเทศที่กำลังประสบภัยสงครามอยู่ในขณะนี้ นางเจนจิรา ผู้เป็นภรรยา
จึงได้เข้าร้องเรียนต่อสื่อมวลชน เพื่อสะท้อนถึงรัฐบาลและหน่วยงานที่รับผิดชอบ
หลังสามีได้หนีตายเอาตัวรอดไปอยู่ที่สนามบินในอิสราเอล เพื่อจะเดินทางกลับไทย
แต่ไม่มีเงินติดตัวเลย จึงเกิดปัญหาในการซื้อตั๋วเครื่องบิน
นางเจนจิรา นั้นได้กล่าวว่า ช่วงแรกที่เกิดเหตุสามีเดือนร้อนอย่างหนัก
เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย จะไม่ได้กลับบ้าน เนื่องจากสามีเดือดร้อนอย่างหนัก
เกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ห่างจากฉนวนกาซ่า ประมาณ 20 กม. เมื่อเกิดเหตุรุนแรง
สามีจึงต้องหนีไปซ่อนตัวที่ไล่มะเขือ จนกระทั่งมีทหารเข้าไปให้ความช่วยเหลือ
จากนั้นนายจ้างจึงพาออกจากพื้นที่ มุ่งหน้าไปทางภาคเหนือและ
ส่งเข้าทำงานในสวนเกษตรอีกรอบ แต่มีเสียงระเบิดการสู้รบเข้าสู่พื้นที่ทางภาคเหนือ
สามีจึงไม่มีความมั่นใจในความปลอดภัย และกลัวว่าจะเสียชีวิต จึงอยากกลับบ้าน
สามีทำงานแห่งใหม่เพียง 2 วัน นายจ้างจึงยังไม่จ่ายค่าแรงงาน โดยสามีจึงได้คุย
กับเพื่อนร่วมงาน 6 คน ชักชวนกันเดินทางกลับประเทศไทย เพราะตามกำหนดการที่สามีลงชื่อไว้นั้น
ทางประเทศไทยมีกำหนดบินไปรับในวันที่ 18 ตุลาคม สามีเห็นว่าสถานการณ์รุนแรงใกล้เข้ามาทุกวัน
หากรอถึงวันที่ 18 ตุลาคม อาจจะไม่มีชีวิตรอดแล้วก็ได้ จึงพากันออกมาด้วยรถแท็กซี่มาที่สนามบิน
จากนั้นจึงติดต่อมากับทางบ้านเพื่อยืมเงินพี่ชาย 40,000 บาท โอนเข้าบัญชีให้ แล้วสามีก็แลกเงินกับเพื่อ
ใช้ซื้อตั๋วเครื่องบิน กลับมาที่ประเทศไทย
เมื่อสามีได้เงินแล้ว สามีก็น่าจะซื้อตั๋วในค่ำวันนี้ เมื่อกลับถึงบ้านจะทำพิธีบายศรีสู่ขวัญผูกข้อมือให้
รวมั้งไปแก้บนที่ศาลปู่บ้าน เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่สามีและครอบครัวจากนั้นค่อยคุยกันว่าจะเดินทาง
ไปทำงานที่ประเทศที่ประเดินใด แต่อิสราเอลจะไม่ให้สามีไปอีก