ล่าสุด “พ่อ” โผล่ร่วมพิธีสวดพระอภิธรรม พนมมือกราบขอโทษ ต่อสังคม
จากประเด็นการกราดยิงห้างชื่อดังสยามพารากอน ที่ผู้ต้องหาเป็นเพียงเยาวชนอายุเพียงแค่ 14 ปี จนทำให้เกิดโศกนาฏกรรมถึง 2 ศพ คือชาวเมียนมา 1 รายและนักท่องเที่ยวจีนอีก 1 ราย การสูญเสียครั้งนี้ส่งผลกระทบในหลาย ๆ ด้านในประเทศ ทั้งเรื่องความปลอดภัย หรือความมั่นคงในประเทศด้านการท่องเที่ยว อีกทั้งยังสะท้อนสังคมให้เห็นอะไรในหลาย ๆ มุม ไม่ว่าจะเป็นปืนที่หาได้ง่ายกว่าผักปลาเสียอีก
การสูญเสียครั้งนี้ทำให้รัฐบาลและเอกชนไทย มอบเงินเยียวยาให้แก่ญาติผู้เสียหายทั้ง 2 ราย เป็นจำนวนเงินคนละ 6.2 ล้านบาท พร้อมทั้งเยียวยาแก่ผู้บาดเจ็บอีกเป็นจำนวนเงินคนละ 3.5 แสนบาท จากการกระทำนี้ทำให้ชาวโซเชี่ยลยิ่งโจมตีผู้ปกครองเด็ก 14 ปีว่าทำไมถึงเงียบได้เพียงนี้!!!
ซึ่งวันนี้ (6 ตุลาคม 2566) “พ่อ” ของผู้ต้องหาได้เดินทางมาร่วมพิธีสวดพระอภิธรรม พร้อมพนมมือกราบขอโทษต่อสังคม โดยผู้เป็นพ่อได้เผยว่า “น้อมรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่เท่าที่เราสามารถจะกระทำได้”พร้อมที้งออกแถลงการณ์ขอโทษระบุว่า “ผมและครอบครัวรู้สึกเสียใจอย่างยิ่งและขอโทษอย่างที่สุดกับผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บ และครอบครัว สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการกระทำของลูกชายของเราที่ห้างสรรพสินค้าสยามพารากอนที่ผ่านมา รวมทั้งกับประชาชน นักท่องเที่ยว เจ้าของกิจการ ห้างร้าน และผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์หรือบริเวณใกล้เคียงที่ต้องอพยพ หรือเดือดร้อน รวมไปถึงเจ้าหน้าที่แพทย์ พยาบาล ตำรวจ เจ้าหน้าที่รัฐ ทั้งของประเทศไทย จีน เมียนมา ลาว และทุกฝ่าย ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ ตลอดจนความเสียหายที่เกิดขึ้นเป็นส่วนรวมของประเทศด้วย ผมและครอบครัวต้องขออภัยที่ไม่ได้สื่อสารต่อสาธารณะให้เร็วกว่านี้ ตลอดเวลาที่ผ่านมา ผมและครอบครัวอยู่ในระหว่างกระบวนการและชั้นตอนทางกฎหมาย ลูกชายเราถูกควบคุมตัวไว้ในสถานพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชนตามคำสั่งศาลคดีเด็กและเยาวชน โดยผมและครอบครัวไม่ได้ยื่นขอประกันตัว เพราะผมและครอบครัวตั้งใจจะให้ความร่วมมือกับทางการอย่างเต็มที่ ในการค้นหาข้อเท็จจริง และให้เกิดความมั่นใจว่า จะไม่เกิดเหตุการณ์รุนแรงซ้ำขึ้นอีกจากกรณีเดียวกัน เราเสียใจและตกใจอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และน้อมรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างเต็มที่เท่าที่เราสามารถจะกระทำได้ ทั้งขอให้คำมั่นว่า เราจะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ของรัฐ และทุกหน่วยงาน ในการดำเนินการตามกฎหมาย รวมทั้งบรรเทาและเยียวยาผลกระทบจากเหตุการณ์ครั้งนี้ให้ดีที่สุด ผมและครอบครัว กราบขอโทษและขอขมาต่อครอบครัวผู้เสียชีวิต ผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัว ซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบร้ายแรงที่สุดจากเหตุการณ์นี้ และทุกคนจากใจด้วยความเคารพครับ"
แอดว่าคนเป็นพ่อแม่คงรู้สึกผิดไม่น้อยที่ลูกก็ตนเป็นเช่นนี้ แต่นั่นแหละในเมื่อลูกของเราผิดก็ควรยอมรับผิดและยอมรับผลที่กระทำต่อสังคมด้วย การที่สังคมจะตราหน้าว่า ก็ควรจะน้อมรับเพราะตนได้กระทำความผิดอันร้ายแรงนี้จริง ๆ ต่อให้เอาเงินมากองอยู่ตรงหน้าญาติผู้เสียชีวิตก็คงจะเยียวยาจิตใจเขาไม่ได้จริง ๆ หรอก เพราะถ้าให้แลกได้ เขาคงไม่อยากเอาชีวิตแม่ หรือลูกเขามาแลกกับเงินพวกนี้หรอก ทุกคนว่าจริงไหม?