วอนสังคม เลิกโทษเกม เพราะเกมไม่ได้ฆ่าใคร คุณว่าจริงไหม?
จากกรณีกราดยิงบนห้างสรรพสินค้าชื่อดัง สยามพารากอน ที่มีผู้ต้องหาเป็นเพียงเด็กชาย อายุเพียงแค่ 14 ปี ซึ่งพฤติกรรมของเด็กชายคนที่เป็นคนที่ติดเกมยิงปืน จึงทำให้สังคมตั้งประเด็นถกเถียงกันในโลกออนไลน์ว่าเป็นเพราะเกมรึเปล่าที่ทำให้เด็กคนนี้เป็นคนก้าวร้าว และหัวรุนแรง รวมถึงข่าวหลาย ๆ สำนึกต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์ถึงสาเหตุการก่อเหตุเป็นเพราะการติดเกมแน่ ๆ
วันนี้ (5 ต.ค.66) นายธนากร ประพฤทธิพงษ์ หรือแชมป์ ประธานสโมสรอีสปอร์ต จังหวัดนครราชสีมา ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า "กระแสสังคมที่วิพากษ์วิจาร ว่ายิงอุกอาจในครั้งนี้ มีเกมเป็นต้นเหตุทำให้เด็กเกิดความก้าวร้าวนั้น ตนรู้สึกเป็นห่วง กลัวว่าสังคมจะมองเด็กเล่นเกมเป็นเด็กไม่ดี เป็นเด็กก้าวร้าว ส่งผลให้เด็กที่ตั้งใจจะพัฒนาฝีมือการเล่นเกม ไปสู่การเป็นนักกีฬาอีสปอร์ตอย่างจริงจัง ถูกกีดกันจากผู้ปกครอง และสังคมรอบข้าง จนทำให้วงการกีฬาอีสปอร์ตในประเทศไทยไม่เติบโต" ซึ่งประเด็นนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจและคิดตามเป็นมาก เพราะจากสถิติการดูการแข่งกีฬาอีสปอร์ตของประเทศไทย ตกเป็นอันดับ 5 หรือ 25% ต่อจำนวนคนใช้ Internet ซึ่งถือว่าเยอะมาก เท่ากับทุก 4 คนจะมี 1 คนที่ดูการแข่งขัน ESport จากสถิติทำให้เห็นว่ากีฬาชนิดนี้มีคนไทยหลายคนให้ความสนใจ และพร้อมที่จะทำให้มันเติบโตไปได้ และประเทศไทยอัตราการเติบโตสูงสุดในโลก โตถึง 29.4% ปี 61 มีผู้ชมถึง 11.4 ล้านคน เปิดกลยุทธ์เจาะตลาดไทย จัดแข่งขัน-ให้ผู้ชมมีส่วนร่วมเล่นเกม และคาดว่าจะมากขึ้นเรื่อย ๆในทุก ๆ ปี ดังนั้นอย่าโทษเกมเลยค่ะ ให้โทษสังคมรอบข้าง การเลี้ยงดู หรืออาจจะเป็นเพราะตัวเด็กเองก็ได้ เกมไม่เคยทำให้ใครเป็นฆาตกรได้หรอกค่ะ มันขึ้นอยู่ที่ตัวเองเองมากกว่า