หนุ่มกินปลากระป๋อง อาการหนักจนต้องเข้าไอซียู

ชายหนุ่มชาวสหรัฐกินปลาซาร์ดีนกระป๋องเข้าไป ติดเชื้อแบคทีเรีย ล่าสุดอยู่ในห้องไอซียู ไม่สามารถพูดหรือลืมตาได้

สำนักข่าว World Forum ข่าวต่างประเทศ ได้ออกมาโพสเตือนบอกเล่าถึงเรื่องราวคู่รักคู่หนึ่งในเมือง บอร์กโด ประเทศฝรั่งเศส คือ "แมท" อายุ 41 ปี และ "คริสตี้" อายุ 19 ปี ทั้งคู่ได้เดินทางจากรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา มายังประเทศฝรั่งเศส เพื่อท่องเที่ยว ในวันที่ 5 ก.ย. 66 จากนั้น ได้ไปไวน์บาร์ ร้าน Tchin Tchin Wine Bar ตามโปรแกรมท่องเที่ยว จากนั้นสั่งเนื้อเย็นและปลาซาร์ดีน เมนูเรียกน้ำย่อยมาทาน แมททานประมาณ 2 ตัว ส่วนคริสตี้ทานไม่มาก

วันรุ่งขึ้น แมทอาการแย่ลง ส่วนคริสตี้มีอาการไม่มาก

วันที่ 7 ก.ย. 66 ทั้งคู่ได้ไปที่ไร่องุ่น โดยขณะปั่นจักรยาน มีอาการวิงเวียนศีรษะ ทัวร์จึงได้พาไปนั่งในรถตู้ แมทอ้วกออกมา มีอาการปากแห้ง ลิ้นชา และกลืนไม่ได้ จากนั้นคริสตี้จึงโทรหารถฉุกเฉิน แมทถูกส่งเข้าห้องไอซียูเป็นผู้ป่วยหนักใส่เครื่องช่วยหายใจ

วันที่ 10 ก.ย. 66 หลังได้รับยาต้าน ทางด้านคริสตี้ก็มีอาการดีขึ้นจนเกือบจะปกติ ส่วนแมทยังอาการหนัก

โดยวันที่ 26 ก.ย.66 ด้านคริสตี้ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลกับสื่อถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ในขณะที่แมทอยู่ในห้องไอซียูมามากกว่า 20 วันแล้ว

หน่วยงานสาธารณสุขของฝรั่งเศสได้ออกมาแถลงว่า การระบาดของโรคเกิดจากปลาซาร์ดีนกระปุก แบบเก็บรักษาไว้ในน้ำมัน (ปลาซาร์ดีนในน้ำมันพืช) ซึ่งบาร์ไวน์เสริฟระหว่างวันที่ 4-10 กันยายน โดยหน่วยงานได้ตรวจพบผู้ป่วยต้องสงสัยที่เป็นโรคโบทูลิซึม 15 ราย และ 10 รายเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล (ประกอบด้วย ชาวอังกฤษ ไอร์แลนด์ เยอรมัน และแคนาดา เสียชีวิต 1 รายจากข้อมูลล่าสุด )

botulism(โบทูลิซึม) เกิดจากแบคทีเรีย คลอสทริเดียม โบทูลินัม โดยแบคทีเรียชนิดนี้เติบโตได้ด้วยการใช้ออกซิเจนต่ำ ซึ่งมีอยู่ในดินและตะกอนทะเลทั่วโลก และแบคทีเรียมีอายุยาวนานหลายปี มักอยู่ในอาการกระป๋อง หมักหรือดอง เกิดจากการปนเปื้อนและในขั้นตอนการแปรรูป

โดยอาการของแมทคือ ไม่สามารถลืมตาได้ พูดไม่ได้ ลิ้นเหมือนเป็นอัมพาต ปัจจุบันต้องสื่อสารผ่านการเขียนบนกระดานไวท์บอร์ด ส่วนหนทางในการฟื้นฟูยังอีกยาวไกล และกำลังอยู่ในขั้นตอนพิจารณาฟ้องร้อง

ซึ่งทางแพทย์ได้ออกมาชี้แจงเพิ่มเติมว่า หากทราบว่าป่วยจาก โบทูลิซึม ต้องรีบให้ยาต้าน ในเคสของแมทนั้น อาจให้ยาช้า 3-5 วันหลังป่วย จึงมีอาการหนักเช่นนี้