"เจ้าชายมาเลเซีย" เผยนาทีชีวิตสุดระทึก..กับเหตุการณ์กราดยิงที่ห้างดัง

               จากเหตุการณ์กราดยิงที่ห้างดังย่านปทุมวัน เมื่อวานนี้ (3 ตค.) ก็มีบุคคลสำคัญระดับประเทศ อย่างเจ้าชายของมาเลเซียติดอยู่ในเหตุการณ์นี้ด้วย  โดยในวันนี้เอง (4 ตค.) ทางเพจเฟซบุ๊คที่มีชื่อว่า “HRH Crown Prince of Johor” หรือ "เจ้าชาย ตุนกู อับดุล ราห์มัน" ของมาเลเซีย ได้มีการออกแถลงการณ์ ภายหลังจากที่ไม่ได้เดินทางไปเชียร์ทีมยะโฮร์ ในการแข่งขันกับ บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ในศึกฟุตบอล เอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2023 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มไอ นัดสอง ที่สนาม บีจี สเตเดียม เมื่อวันที่ 3 ต.ค.ที่ผ่านมา เนื่องจากพระองค์ติดอยู่ในโรงแรม ใกล้จุดเกิดเหตุที่เด็กอายุ 14 ปี ก่อเหตุกราดยิงผู้คนในห้างดัง "สยาม พารากอน" 

              โดยในแถลงการณ์ดังกล่าวของ "เจ้าชาย" ได้ระบุว่า "ผู้คนต่างตะโกน และวิ่งเข้าไปในโรงแรมจากห้างสรรพสินค้า เมื่อมือปืนเริ่มยิง มันดังมาก และมีเสียงกรีดร้องมากมาย ตอนนั้นเราทุกคนนั่งอยู่ที่ล็อบบี้ของโรงแรม เราอุ้มเด็กๆ/ครอบครัวไปยังที่ปลอดภัย วิ่งไปที่ห้องใต้ดินพร้อมกับทีมของข้าพเจ้า และสิ่งเดียวที่อยู่ในใจของข้าพเจ้า คือ มีมือปืนกี่คนอยู่ที่นั่น พวกเขามีอาวุธอะไรบ้าง และสถานการณ์เป็นอย่างไร เราต้องตื่นตัว และเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์ใดๆ ก็ตาม เพราะสิ่งที่เรารู้ ณ จุดนั้นคือ เสียงปืนที่เราได้ยิน เราไม่มีข้อมูลอื่นใด และต้องเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งใด ข้าพเจ้ายังนึกภาพตอนที่ข้าพเจ้าบอกกับลูกๆ ของข้าพเจ้าว่า ทุกอย่างจะต้องเรียบร้อย พ่อและแม่อยู่ที่นี่ และบอกให้พวกเขาลงไปรอรถ

              ข้าพเจ้าและทีมรักษาความปลอดภัยยืนอยู่เบื้องหน้าครอบครัว สร้างเกราะมนุษย์ เพื่อปกป้องพวกเขาไม่ว่าจะด้วยวิธีใดก็ตาม ในความคิดคือ การพาครอบครัวและทีมของข้าพเจ้าออกจากที่นั่น ภรรยาของข้าพเจ้ากอดลูกๆ ของเราทุกคน โดยพยายามสงบสติอารมณ์เพราะพวกเขากลัวและร้องไห้
              ข้าพเจ้าตะโกนสุดเสียง เพื่อให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยนำรถไปที่ชั้นใต้ดิน และพาเราไปที่ที่ปลอดภัยห่างจากสถานที่นั้น ข้าพเจ้าบอกพวกเขาให้พาเราไปที่สถานทูตมาเลเซีย แต่คนขับบอกเราว่า สถานทูตสิงคโปร์อยู่ใกล้กว่านั้น และนั่นคือ ตอนที่ข้าพเจ้าติดต่อกับกงสุลใหญ่สิงคโปร์ในรัฐยะโฮร์ ตอนนี้เราอยู่ที่นี่อย่างปลอดภัยในสถานทูตแล้ว ข้าพเจ้าโทร.หานายกรัฐมนตรีมาเลเซีย และรัฐมนตรีกลาโหมของเรา เพื่อแจ้งให้ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เอกอัครราชทูตมาเลเซียก็อยู่กับเราด้วย
              เมื่อปลอดภัยแล้ว เราก็ไปสนามบินและบินกลับยะโฮร์ น่าเศร้าที่ข้าพเจ้าพลาดเกม (การแข่งของทีมฟุตบอล) JDT แต่ข้าพเจ้าดีใจที่ครอบครัว และทีมของเราปลอดภัย นี่เป็นประสบการณ์ที่เลวร้ายที่สุดที่ข้าพเจ้าเคยเจอ ต้องปกป้องชีวิตของลูกๆ ของข้าพเจ้าจากฆาตกร มีผู้เสียชีวิต 2 ราย ขอพระเจ้าอวยพรวิญญาณผู้บริสุทธิ์ของพวกเขา
              อัลฮัมดุลิลลาฮ์ (การสรรเสริญเป็นสิทธิของพระเจ้า หรือขอบคุณพระเจ้า) พวกเราปลอดภัยแล้ว ขอขอบคุณทีมรักษาความปลอดภัยของข้าพเจ้าและเพื่อนของเราจากสิงคโปร์และมาเลเซีย ข้าพเจ้าจะขอบคุณพวกคุณทุกคนตลอดไป"

(ลงพระนาม) อิสมาอิล อิบราฮิม มกุฎราชกุมารแห่งยะโฮร์