ออสเตรเลียเผชิญไฟป่าพร้อมน้ำท่วมหนัก

หลังเผชิญกับเหตุไฟป่า ชาวออสเตรเลียยังต้องเตรียมตัวเพื่อเผชิญกับอุทกภัยน้ำท่วมหนักอีกครั้ง

ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้ออกมารายงานว่า ขณะนี้ออสเตรเลียได้เข้าสู่ฤดูของไฟป่าที่เจ้าหน้าที่คาดว่าจะเป็นช่วงที่อันตรายที่สุดในรอบหลายปี ไฟป่าได้ลุกลามในภูมิภาคกิปส์แลนด์ของรัฐวิกตอเรีย และชายฝั่งทางใต้ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ในสัปดาห์นี้ ซึ่งทั้งสองพื้นที่เคยได้รับผลกระทบอย่างหนักจากไฟป่าฤดูร้อนหรือ "Black Summer"ไปเมื่อสี่ปีที่แล้ว

ในเมืองกิปส์แลนด์ พื้นที่ชนบททางตะวันออกเฉียงใต้ของรัฐวิกตอเรีย เจ้าหน้าที่ดับเพลิงหลายร้อยคนใช้เวลาหลายวันต่อสู้กับเหตุเพลิงไหม้ร้ายแรง 2 แห่ง จากนั้นมีการอพยพประชาชน และมีรายงานจากทางเจ้าหน้าที่ของรัฐนิวเซาท์เวลส์ (NSW)ว่าบ้านเรือนหลายหลังถูกทำลายและเสียหายเป็นจำนวนมากจากไฟในหุบเขาเบกาเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา รัฐทั้งสองโดนไฟไหม้กินพื้นที่ไปกว่า 250 ตารางกิโลเมตร ซึ่งใหญ่กว่าเกาะแมนฮัตตันประมาณ 5 เท่า

ขณะนี้ได้มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง แต่ก็เสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมขึ้นด้วย ซึ่งทางการออกมาเตือนให้เตรียมพร้อมรับมือน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะเมืองต่างๆ ในภูมิภาคกิปส์แลนด์ที่ถูกไฟป่าคุกคาม มีความเสี่ยงที่จะเกิดน้ำท่วมขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทิม วีบุช หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริการฉุกเฉินแห่งรัฐวิกตอเรีย ได้ออกมาเตือนประชาชนเมื่อวันอังคารที่ 3 ต.ค.66 ให้หลีกเลี่ยงการขับรถฝ่าน้ำท่วม เพราะอาจอันตรายถึงชีวิตได้

ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ พื้นที่ที่เกิดเพลิงไหม้ได้รับฝนตกบ้าง แต่อันตรายจากไฟไหม้ขั้นรุนแรงยังคงดำเนินต่อไป โดยสภาพอากาศร้อน แห้ง และมีลมแรง ส่งผลให้มีการสั่งห้ามใช้ไฟในบางพื้นที่

ออสเตรเลียต้องเผชิญกับภัยพิบัติหลายครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นภัยแล้งรุนแรงและไฟป่าครั้งประวัติศาสตร์ น้ำท่วมทำลายสถิติติดต่อกันหลายปี และเหตุการณ์การฟอกสีครั้งใหญ่ 6 ครั้งในแนวปะการังเกรตแบร์ริเออร์รีฟ เนื่องจากผลกระทบทางสภาพภูมิอากาศ

รายงานล่าสุดของคณะกรรมการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (IPCC) เตือนว่า อนาคตที่เต็มไปด้วยภัยพิบัติที่เลวร้ายลงนั้นมีแนวโน้มเป็นไปได้ เว้นแต่จะมีการดำเนินการอย่างเร่งด่วนเพื่อหยุดยั้งการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ

โดยทางนายกรัฐมนตรีแอนโธนี อัลบานีส กล่าวถึงสถานการณ์นี้ว่า เนื่องด้วยประเทศนี้ต้องเผชิญกับภัยพิบัติครั้งแล้วครั้งเล่าในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา เป็นหนึ่งในเหตุผลที่เขามุ่งมั่นที่จะดำเนินการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างเข้มงวด