ชัยธวัช ชี้ เมื่อรัฐใช้กฎหมายเป็นอาวุธ ทนายจึงต้องยืนหยัดต่อสู้กับความรุนแรงนี้ เพื่อปกป้องนิติรัฐ และระบอบประชาธิปไตย
“เมื่อรัฐใช้กฎหมายเป็นอาวุธ ทนายจึงต้องยืนหยัดต่อสู้กับความรุนแรงนี้ เพื่อปกป้องนิติรัฐ และระบอบประชาธิปไตย
ทว่าแม้ประชาธิปไตยของไทยจะถดถอยไปมากในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา
สายลมแห่งการเปลี่ยนแปลงได้มาถึงแล้ว
เราได้เห็นคลื่นลูกใหม่ของขบวนการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย พวกเขาชูสามนิ้วเป็นสัญลักษณ์แห่งการต่อต้าน เยาวชนจำนวนมากเข้าร่วมการต่อสู้ในครั้งนี้ หลายคนเสียสละมหาศาลให้กับการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตย
ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชนคงไม่มีวันนี้ หากคนไทยไม่ได้ลุกขึ้นมาสู้กับรัฐเผด็จการที่ซ่อนตัวอยู่ในที่แจ้ง ในสถาบันตุลาการ ในกฎหมาย และในรัฐธรรมนูญที่มาจากรัฐประหาร
เรายังต้องเดินทางกันไปอีกไกลเพื่อไปให้ถึงประชาธิปไตยที่แท้จริง
การต่อสู้เพื่อความยุติธรรมนั้นไม่เคยง่าย
แต่เวลาย่ำรุ่งจะมาถึงเสมอ
การเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคตที่ดีกว่าอยู่ในมือของเราเอง
เราจะเดินหน้าต่อไปจนกว่าความหวังจะกลายเป็นความจริง”
นี่คือส่วนหนึ่งของสุนทรพจน์ที่ทนายแอน ภาวีณี ชุมศรี และทนายจูน ศิริกาญจน์ เจริญศิริ ตัวแทนของศูนย์ทนายเพื่อสิทธิมนุษยชน ได้นำเสนอต่อประชาคมโลก ระหว่างขึ้นรับรางวัล The Albies จากมูลนิธิคลูนีย์เพื่อความยุติธรรม (Clooney Foundation for Justice) ที่นครนิวยอร์ก ในฐานะองค์กรที่ทำงานเพื่อปกป้องสิทธินักเรียนนักศึกษา นักกิจกรรม และสื่อมวลชนที่ถูกจับกุมจากการชุมนุมและการแสดงออกอย่างสันติในไทย
ผมดีใจอย่างยิ่งที่การทำงานของศูนย์ทนายฯ ได้รับการยอมรับในระดับโลก หลังการทำงานหนักต่อเนื่องมานานหลายปี
สำหรับผม ศูนย์ทนายเป็นองค์กรที่มีคุณูปการต่อการปกป้องสิทธิเสรีภาพ และการลงหลักปักฐานประชาธิปไตยของไทยมากที่สุดองค์กรหนึ่ง ทนายอาสาเหล่านี้ทำงานหนักบนความเสี่ยงและแรงกดดันจากอำนาจรัฐ หลายครั้งตัวทนายเองต้องถูกคุกคามข่มขู่จากการทำคดีให้กับผู้ต้องหาคดีความมั่นคง แต่พวกเขายังคงยืนหยัดทำงานทั้งในด้านต่อสู้คดี และยังเป็นแหล่งรวมข้อมูลคดีความทางการเมืองที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของประเทศ
ขอเป็นกำลังใจให้ทุกคน ต่อสู้ร่วมกัน จนกว่าจะถึงวันที่รัฐไทย ทำหน้าที่ปกป้องสิทธิเสรีภาพของประชาชนได้ดีกว่านี้
การต่อสู้เพื่อสังคมที่เป็นธรรมนั้นไม่เคยง่าย แต่เวลาย่ำรุ่งจะมาถึงเสมอ
In Solidarity
อ้างอิงจาก: fb ชัยธวัช ตุลาธน