เพจดังเผย "น้ำกรดไนตริก" ทดสอบทองแท้ได้จริง แต่อันตราย และไม่ควรทำตาม
เพจดัง อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ ได้ออกมาโพสต์ภาพพร้อมข้อความ โดยระบุว่า. มีคนส่งคลิปวีดีโอ ที่อ้างว่าเป็นการพิสูจน์ "ทองคำ" ว่าเป็นแท้ หรือทองเคทองชุบ ด้วยการเอาไปแช่ในน้ำกรดไนตริก 68% อยู่ในน้ำกรดได้ แต่ถ้าเป็นทองปลอมทองชุบ จะเกิดปฏิกิริยาเคมีอย่างรุนแรง สร้อยทองที่เอาทดสอบละลายหายไปเลยทีเดียวคือ ก็ต้องขอเตือนกันว่า ถึงแม้ว่าการใช้สารละลายกรดไนตริกมาทดสอบทองแท้ จะเป็นเรื่องจริงที่ทำได้นั้น แต่วิธีการที่ทำในคลิปดังกล่าวนั้นเป็นวิธีที่อันตราย ไม่ควรทำกันเอง แต่ควรให้ผู้เชี่ยวชาญเป็นผู้ทดสอบ ในห้องปฏิบัติการที่ได้มาตรฐานเท่านั้นนะครับ !!
- ทองคำ (หรือ Au ตามชื่อในตารางธาตุ) เป็นธาตุที่มีความแข็งต่ำ สามารถดัดงอและเปลี่ยนรูปร่างได้ แต่ไม่ว่องไวในการเกิดปฏิกิริยาทางเคมี จึงทำให้ทองแท้ไม่เกิดปฏิกิริยาเคมีเมื่อโดนน้ำฝนหรือน้ำกรด จะเกิดก็เพียงเล็กน้อยในระดับอะตอมเท่านั้น
- ถ้าจะละลายทองคำแท้ ต้องใช้ตัวทำละลายที่มีชื่อว่า Aqua regia เป็นตัวทำละลาย ที่ผสมกันระหว่างกรดไฮโดรคลอริกและกรดไนตริก อัตราส่วน 3:1 หรือที่นักวิทยาศาสตร์ไทยเรียกว่า กรดกัดทอง
- ทองคำ ในธรรมชาติ จะอยู่ในรูปสารประกอบ ไม่ได้บริสุทธิ์ ดังนั้น ในทางอุตสาหกรรม จึงต้องนำแร่ทองไปทำให้กลายเป็นทองคำที่บริสุทธิ์ตามกระบวนการอุตสาหกรรม ส่วนมากจะทำได้บริสุทธิ์มากถึง 99.9 เปอร์เซ็นต์ และแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์
- โดยในท้องตลาดที่จำหน่าย2 แบบ คือ ทองคำแท่ง ที่มีความบริสุทธิ์ของทองอยู่ที่ 99.9 เปอร์เซ็นต์ และทองรูปพรรณ ( เช่น กำไรข้อมือ สร้อย แหวน) มีความบริสุทธิ์ของทองอยู่ที่ 96.5 เปอร์เซ็นต์ ขึ้นไป
- ส่วนทองชุบนั้น จะใช้เทคนิคทางเคมีไฟฟ้า กับสารละลายอิเล็กโตรไลท์ เพื่อให้เนื้อทองเคลือบลงบนโลหะอื่นๆ ที่ต้องการ
- คลิปวิดีโอดังกล่าว มีข้อสังเกตที่แสดงถึงอันตรายต่อผู้ทำตามได้ คือ
1. ในคลิปใช้กรดไนตริกที่มีเข้มข้นสูง จากขวดสารเคมี ไม่ได้ไปทำละลายให้เจือจางก่อน
: ในความเป็นจริง ไม่ได้จำเป็นต้องใช้กรดความเข้มข้นสูงถึง 68% ขนาดนั้น / กรดไนตริกเข้มข้น ที่เปิดใช้โดยตรงจากขวดสารเคมี จะมีไอระเหยของกรด ที่ถูกปลดปล่อยออกมาเมื่อทำที่สภาวะอุณหภูมิห้อง ไอของกรดและสารละลายกรดมีฤทธิ์กัดกร่อนสูง สามารถเป็นอันตรายต่อผิวหนัง ดวงตา และประสาทสัมผัสได้ / การใช้กรด จึงควรจะต้องสวมใส่อุปกรณ์ป้องกันด้านความปลอดภัย หรือ Personal- Protective Equipment (PPE)
2. ปฏิกิริยาเคมีที่เกิดขึ้น มีความรุนแรง เสี่ยงเป็นอันตราย
อ้างอิงจาก: https://www.facebook.com/reel/949557472800293
อ้างอิงจาก: https://www.facebook.com/photo/?fbid=863126628505484&set=a.212820230202797