คืนเฮี้ยนตอนไปเที่ยว !!
สวัสดีครับวันนี้ผมมีเรื่องสยองขวัญมาเล่าให้ฟังอีกแล้วครับเริ่มเล่าเลยนะครับ เมื่อประมาณหนึ่งปีที่ผ่านมา ผมและเพื่อนๆที่มหาวิทยาลัยที่เรียนด้วยกัน ได้ชักชวนกันไปเที่ยว รวมกันทั้งหมดห้าคน ก็ได้ขับรถไปจนไปถึงที่ คนมาเที่ยวเยอะมาก และในคืนที่สองนั้นแหละผมและเพื่อนๆก็กะว่าจะเข้าไปเที่ยวในตัวเมืองกัน เพราะอยากจะไปดูอ่างเก็บน้ำที่หนึ่งในตัวจังหวัดจนขับรถไปถึงที่หมาย แล้วขากลับจะต้องผ่านป่าไม้ใหญ่
แล้วตอนขับลงเขา ผมเหยียบเบรคแล้วแต่รถกลับไม่หยุด ผมใจหายทันที เลยพยายามดึงเบรคมือให้รถค่อยๆชะลอลงข้างทาง จะโทรเรียกช่างก็ไม่มีใครที่มีเบอร์ช่างเลย จนสักพักก็ลองสตาร์ทรถแล้วลองวิ่งดู ปรากฏว่ารถยังพอวิ่งได้ ระยะทางอีกแปดสิบว่ากิโลเมตรกว่าจะถึงแล้ว จึงได้คุยกันว่าคืนนี้สงสัยต้องหาที่กางเต็นท์กันแถวๆนี้ แต่มองไปสองข้างทางก็มีแต่ป่ากับเขา ผมก็นึกกังวลขึ้นมาในใจ พอขับรถไปได้ซักพักผมก็เจอลานโล่งๆ อยู่ห่างจากถนนเส้นหลักประมาณสิบเมตร สามารถขับรถเข้าไปได้ ถนนเข้าก็เป็นเส้นทางแคบๆเข้าไปถึงด้านในเป็นลานที่โล่งและกว้างมาก ซึ่งดูแล้วเป็นสถานที่ที่ดีมากๆ ด้านล่างลงไปจะเป็นแอ่งน้ำ ผมคิดว่านี่เป็นโอกาศสุดท้ายแล้วที่จะหาที่พัก จึงได้ตกลงกันว่าจะกางเต็นท์กันที่นี่ ลักษณะจะเป็นลานกว้างๆ มีต้นไม้ใหญ่อยู่ต้นนึง ด้านข้างจะเป็นล่องน้ำ แต่ผมก็สังเกตเห็นว่าที่ลานแห่งนี้มีเต็นท์กางอยู่ด้วยสองเต็นท์ แต่ยังไม่เห็นคน
ผมรู้สึกอุ่นใจขึ้นมาทันที คิดว่าคืนนี้จะได้มีเพื่อนนอน จึงช่วยกันกางเต็นท์กับเพื่อนๆ อีกสี่คน กางกันสองเต็นท์ ระหว่างที่ผมและเพื่อนๆๆช่วยกันกางเต็นท์อยู่ก็ได้ยินเสียงไอออกมาจากด้านในเต็นท์ที่กางอยู่ก่อนแล้ว ผมก็คิดในใจว่ามีคนอยู่ในเต็นท์แน่ๆจนใกล้จะมืดแล้ว ผมก็ให้เพื่อนผู้หญิงไปหาฝืนมา เพราะต้องก่อไฟ กลางคืนมันจะอากาศหนาวมากๆ แล้วจะได้กันพวกสัตว์ป่าด้วย หลังจากกางเต็นท์แล้วเสร็จท้องฟ้าก็มืดพอดี สักครู่ก็มีคนออกมาจากสองเต็นท์นั้น เป็นผู้ชายสองคน ผู้หญิงสามคน เค้าก็เข้ามาทักทายกับพวกผมปกติ เขาบอกว่ามาจากกรุงเทพกัน ส่วนผู้ชายอีกสองคนหลังจากเดินออกมาจากเต็นท์แล้วก็ได้เดินไปยืนอยู่ที่ล่องน้ำ โดยไม่ได้พูดอะไรกับพวกผมเลย หลังจากนั้นก็ได้หุงหาอาหารกัน และก็ได้นั่งคุยกันปกติทั่วไป จนเวลาประมาณหนึ่งทุ่มกว่าๆ อากาศเย็นมาก จนบางครั้งก็คิดในใจว่ามันเย็นผิดปกติหรือป่าว บรรยากาศก็วังเวงชอบกล เงียบมาก ไม่ได้ยินเสียงสัตว์สิ่งที่ควรจะได้ยินจากป่าเลย ผมก็ได้นั่งฟังเพื่อนคุยกับผู้หญิงอีกสามคน ส่วนผู้ชายอีกสองคนก็ไม่ยอมเข้ามานั่งล้อมวงคุยกัน ยังคนยืนนิ่งอยู่ที่ที่ล่องน้ำ จนประมาณสองทุ่มกว่า ผมก็คิดว่าจะเข้านอนแล้วเพราะพรุ่งนี้จะได้ตื่นเช้าและโทรนัดช่าง ผู้ชายสองคนนั้นก็เดินเข้ามาแต่เงียบมาก จนไม่ได้ยินเสียงตอนเขาเดินเข้ามาเลยแล้วมายืนข้างๆผม ผมก็ได้ยิ้มให้ เขาก็ยิ้มตอบที่มุมปากเล็กๆ แล้วก็เข้าเต็นท์ไป
หลังจากนั้นผมก็เข้าไปนอนในเต็นท์ แล้วเพื่อนผู้หญิงก็ตามเข้ามาอีกสองคน เหลือเพื่อนของผมอีกสองคน ที่ยังนั่งคุยอยู่ข้างนอกกับผู้หญิงสามคน อยู่สักพักผมก็เผลอหลับไป จนตื่นมาตอนหกโมงเช้าด้วยเสียงนาฬิกาปลุก ผมเปิดซิบเต็นท์แล้วชะโงกหน้าออกไปข้างนอก ผมมืออ่อนทันที ต้นไม้ต้นใหญ่ที่เห็นตอนแรกนั้นไม่มีแล้ว พื้นเป็นลานดินเรียบๆ มีเก้าอี้เรียงอยู่หกแถว และมีเชิงตะกอนตั้งอยู่ เพื่อนผู้หญิงที่อยู่ข้างๆผมร้องไห้ขึ้นมาทันที ผมรวบรวมสติแล้วพยายามนึกว่า เมื่อคืนมันคืออะไร แล้วคนพวกนั้นรวมถึงเต็นท์ที่เจอเมื่อคืนหายไปไหน ล่องน้ำด้านข้างก็ไม่มี เหมือนเป็นที่เอาไว้เขี่ยขี้เถ้าทิ้ง แล้วที่สำคัญเลยก็คือ รถเข้ามาจอดข้างในแต่ไม่มีทางเข้ามา แล้วทางที่เชื่อมต่อระหว่างลานดินไปจนถึงถนนเส้นหลักก็มีแต่โคลนอีกด้วยตอนนั้นผมยืนกำพระแน่นเลย จนสักพักมีชาวบ้านขับรถผ่านมาที่ถนนใหญ่แล้วตะโกนถามว่า เข้าไปทำไม มันเป็นลานเผาศพ แล้วเอารถเข้าไปได้ยังไง หลังจากที่ผมและเพื่อนๆกลับมาถึงบ้านก็ได้ชวนกันไปทำบุญกันทันทีเลย ไว้มีเรื่องราวอะไรสนุกๆดีจะมาเล่าให้ฟังอีกนะครับ