นายกรัฐมนตรี แถลงนโยบายยกระดับชีวิตความเป็นอยู่แรงงาน

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ชี้แจงในการแถลงนโยบายของคณะรัฐมนตรีต่อรัฐสภา วันที่ 12 กันยายน 2566 เกี่ยวกับข้อซักถามเกี่ยวกับปัญหาด้านแรงงาน ว่า ประเทศไทยถือว่าโชคดีมากในด้านนี้ เพราะอัตราการวางงานของประเทศไทยต่ำกว่า 1% แต่เป็นความโชคดีบนความโชคร้ายที่ประขากรของเรามีงานทำ แต่ความต้องการแรงงานมีเยอะมาก ทำให้การพึ่งแรงงานต่างชาติจึงเป็นเรื่องจำเป็น ซึ่งต้องมีการดูแลเรื่องสิทธิมนุษยชน ความเป็นอยู่ ศักดิ์ศรี ความปลอดภัยและความมั่นคงที่เขาพึงจะได้
.
[ ยกระดับชีวิตความเป็นอยู่แรงงาน ]

.
ปัญหาหลายๆ อย่างที่สมาชิกรัฐสภาสะท้อนมา ทั้งเรื่อง One Stop Service ที่หลายๆ รัฐบาลพยายามทำมาแล้ว ซึ่งรัฐบาลเราตระหนักดี และได้ไปรับฟังข้อมูลเบื้องต้นจากปัญหาการประมงที่เกิดขึ้น เราก็จะพยายามทำเรื่องนี้ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยคำนึงถึงทั้งผู้ประกอบการ ผู้ใช้แรงงานและแรงงานต่างด้าวด้วย
.
เรามีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะส้้น เช่น การท่องเที่ยวเพื่อดึงเงินเข้าภาคบริการและค่าแรงจะปรับขึ้นตามความต้องการของแรงงาน นอกจากการกระตุ้นเศรษฐกิจในภาคบริการแล้ว เรายังจะลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน ของพี่น้องประชาชนและผู้ประกอบการด้านโลจิสติกส์ด้วย โดยหลังจากการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา ได้ให้แนวทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานให้ดำเนินการเร่งด่วน
.
ส่วนเรื่องค่าแรงขั้นต่ำเป็นเรื่องสำคัญ ซึ่งหลายพรรคได้พูดกันไว้ เนื่องจากเป็นห่วงกังวลพี่น้องประชาชนจะต้องได้รับการดูแล มีรายได้ที่เหมาะสม เพียงพอกับการใช้จ่ายประจำวัน เราจะได้มีการเจรจากันทั้ง 3 ฝ่าย ระหว่างแรงงาน ผู้ว่าจ้างและรัฐบาล เพื่อปรับค่าแรงขั้นต่ำให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม โดยมีเป้าหมายที่ 400 บาทโดยเร็วที่สุด
.
[ วิน-ไรเดอร์-แท็กซี่ ได้รับสวัสดิการและความเป็นธรรม ]
.
รัฐบาลนี้มาจากประชาชน ไม่หลงลืมถึงความยากแค้นของพี่น้องประขาชน ขณะที่ยังไม่ได้รับอำนาจรัฐเต็มที่ก็ได้ลงพี้นที่ไปรับฟังความคิดเห็น ดูแลพี่น้องประชาชน มีความตั้งใจอย่างจริงจัง
.
สำหรับการสะท้อนปัญหาของสมาชิกรัฐสภา ในเรื่องเกี่ยวกับกลุ่มผู้ประกอบการไรเดอร์ นั้น รัฐมองภาพของ Gig Economy โดยรวม ซึ่งรวมถึงแท็กซี่ ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ผู้ให้บริการขนส่งต่างๆ ซึ่งได้รับฟังปัญหาต่างๆ จากผู้ประกอบการและการลงพื้นที่ตั้งแต่ก่อนเลือกตั้งและหลังเลือกตั้ง ทั้งในด้านค่าบริการที่ไม่เป็นธรรม ค่าใช้จ่ายพื้นฐานที่เรียกเก็บจากผู้โดยสารไม่ได้มีการปรับมานาน การบังคับรับงานพ่วง การแบกรับต้นทุนความเสี่ยงเอง กฎหมายแรงงานไม่คุ้มครองและกฎหมายต่างๆ ที่ยังล้าสมัยอยู่ ได้ให้แนวทางกระทรวงแรงงานเพื่อเจรจากับภาคเอกชนเพื่อยกระดับสวัสดิการและค่าแรงให้เป็นธรรมมากยิ่งขึ้น แข่งขันกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยี
.
นอกจากนั้นยังมีแนวทางในการจัดระเบียบค่าโดยสาร ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์รับจ้าง ไรเดอร์และแท็กซี่ ให้มีความยุติธรรม โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของผู้โดยสารและผู้ขับขี่
.
อีกทั้งยังมีแนวทางให้กระทรวงคมนาคม ทำการศึกษาเรื่องการสร้างแอปพลิเคชัน เรียกรถของรัฐบาล เพื่อช่วยเหลือผู้ให้บริการเหล่านี้ครบวงจร ครอบคลุมและทั่วถึง