อินเดียจะเปลี่ยนชื่อประเทศ
อินเดียจะเปลี่ยนชื่อเป็นภารัตร
รัฐบาลอินเดียได้สร้างความฮือฮาไปทั่วโลก ด้วยการใช้ชื่อ "ภารัตร" (Bharat) แทนคำว่า "อินเดีย" ในเอกสารเชิญร่วมรับประทานอาหารค่ำในการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ที่อินเดียจะเป็นเจ้าภาพ
คำว่า "ภารัตร" เป็นชื่อเรียกประเทศอินเดียในภาษาฮินดี เก่าแก่สืบย้อนไปถึงยุคพระเวท และคำนี้ก็สื่อถึงพื้นที่อินเดียด้วย การหยิบยกเอาชื่อนี้มาใช้อีกครั้งในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงท่าทีของพรรคชาตินิยมฮินดูของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ในความพยายามจะลบล้างชื่อที่ (พวกเขา) มองว่าเป็นมรดกจากเจ้าอาณานิคมตะวันตก
การประกาศเปลี่ยนชื่อประเทศอินเดียครั้งนี้ ได้รับการตอบรับเชิงบวกจากกลุ่มชาตินิยมฮินดู แต่ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากกลุ่มอื่น ๆ เช่นกัน โดยฝ่ายที่ไม่เห็นด้วยมองว่า การเปลี่ยนชื่อประเทศเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นและอาจสร้างความสับสนให้กับชาวต่างชาติ
นอกจากนี้ ยังมีประเด็นที่ถกเถียงกันอีกว่า รัฐบาลอินเดียจะดำเนินการเปลี่ยนชื่อประเทศอย่างเป็นทางการได้อย่างไร เนื่องจากชื่อประเทศอินเดียนั้นได้รับการยอมรับในระดับสากลแล้ว หากรัฐบาลอินเดียจะเปลี่ยนชื่อประเทศ จะต้องได้รับการรับรองจากองค์การสหประชาชาติและประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกด้วย
อย่างไรก็ตาม จนถึงขณะนี้ รัฐบาลอินเดียยังไม่ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการว่า จะเปลี่ยนชื่อประเทศอินเดียเป็นภารัตรจริงหรือไม่ คงต้องติดตามกันต่อไปว่า เรื่องนี้จะจบลงอย่างไร
ความจริงแล้ว รัฐบาลอินเดียยังไม่ออกมายืนยันอย่างเป็นทางการว่าจะเปลี่ยนชื่อประเทศอินเดียเป็นภารัตรจริงหรือไม่ เพียงแต่มีการหยิบยกเอาชื่อนี้มาใช้ในเอกสารเชิญร่วมรับประทานอาหารค่ำในการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ที่อินเดียจะเป็นเจ้าภาพเท่านั้น
การที่รัฐบาลอินเดียใช้ชื่อภารัตรในเอกสารเชิญครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงท่าทีของพรรคชาตินิยมฮินดูที่ต้องการฟื้นฟูความเป็นชาตินิยมฮินดูให้กลับมาเข้มแข็งอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม การเปลี่ยนแปลงชื่อประเทศอย่างเป็นทางการนั้น จะต้องได้รับการรับรองจากองค์การสหประชาชาติและประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกด้วย ซึ่งกระบวนการดังกล่าวอาจต้องใช้เวลาและอาจมีความซับซ้อน
ดังนั้น จึงเป็นไปได้ว่า รัฐบาลอินเดียอาจไม่ได้เปลี่ยนชื่อประเทศอินเดียเป็นภารัตรจริง ๆ แต่เป็นเพียงการหยิบยกเอาชื่อนี้มาใช้เพื่อแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของพรรคชาตินิยมฮินดูเท่านั้น
หากรัฐบาลอินเดียจะเปลี่ยนชื่อประเทศอินเดียเป็นภารัตรจริง ๆ คงต้องติดตามกันต่อไปว่า เรื่องนี้จะจบลงอย่างไร