สาวจีนแสบ!! ทำงาน 3 ปี 16 บริษัทพร้อมๆกัน จนรวยอู้ฟู้ซื้อบ้านหรูได้
สร้างความตกตะลึงให้กับโซเชียลมีเดียจีนแผ่นดินใหญ่ เมื่อเรื่องราวของหญิงสาวรายหนึ่งในประเทศจีนที่ฉ้อโกง โดยเธอเข้าทำงานกับ 16 บริษัทในตำแหน่งที่แตกต่างกันไป ในเวลาเดียวกันนั้นก็มีเงินมากพอจนสามารถซื้อวิลล่าหรูในเซี่ยงไฮ้ได้
โดยการหลอกลวงของ "กวนเยว่" (Guan Yue) ก็ได้สิ้นสุดลงเมื่อเธอถูกจับกุมระหว่างการสัมภาษณ์งาน ซึ่งเธอจะทำเรซูเม่ให้น่าประทับใจและมีประสบการณ์มากมาย จนบริษัทรับเธอเข้าทำงาน ซึ่งเป็นสถานการณ์ทั่วไปที่เธอจะถ่ายรูปและแชร์ในแชทกลุ่ม เพื่อหลอกให้นายจ้างคิดว่าเธอกำลังพบปะกับลูกค้า และเพื่อให้แผนการแนบเนียน เธอจะเก็บบันทึกข้อมูลที่จำเป็นโดยละเอียด ตั้งแต่วันที่เริ่มงาน ตำแหน่งงาน และหมายเลขบัญชีธนาคาร สำหรับแต่ละตำแหน่งของเธอเอาไว้ และไม่น่าเชื่อว่าเธอจะมีตำแหน่งในบริษัทมากถึง 16 บริษัท
"กวนเยว่" (Guan Yue) และ "เฉินเฉียง" (Chen Qiang) สามีของเธอ เชี่ยวชาญด้านกฎหมายและข้อบังคับต่างๆ จึงหาช่องโหว่ ในการเข้าทำงานกับบริษัทหลายแห่ง โดยเฉินเฉียงเคยโดนฟ้องคดีอนุญาโตตุลาการไปแล้ว 13 คดี และเขาชนะคดีทั้งหมด ทำให้ตลอดระยะเวลา 3 ปี ทั้งคู่มีความมั่งคั่งเพียงพอที่จะซื้อวิลล่าในย่านเป่าซาน ของเซี่ยงไฮ้ได้ ซึ่งยังไม่มีรายงานว่าพวกเขาชำระค่าทรัพย์สินเป็นจำนวนเท่าใด สุดท้าย แผนการชั่วร้ายของพวกเขาถูกเปิดเผยในเดือนมกราคม 2566 เมื่อ หลิวเจียน (Liu Jian) หนึ่งใน 16 นายจ้าง ซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทเทคโนโลยี ที่ "กวนเยว่" (Guan Yue) ทำงานด้วย เมื่อเจอความคลาดเคลื่อนด้านเอกสาร หลังจากเมื่อเดือนตุลาคม 2565 ที่เขาได้ว่าจ้างหัวหน้าทีมหลักและบุคคลอีก 7 คน โดยหัวหน้าทีมได้เงินเดือน 20,000 หยวน (ราว 97,000 บาท) แต่ในเวลาต่อมา ทีมไม่สามารถส่งงานตามกำหนดได้ ทางบริษัทจึงยกเลิกสัญญาจ้าง
ทั้งนี้มีผู้เชี่ยวชาญรายหนึ่งสังเกตว่า มีบริษัทเพียง 2 ใน 16 แห่งเท่านั้น ที่จ่ายเงินประกันสังคมให้กับพนักงาน ไม่เช่นนั้นการฉ้อโกงก็อาจถูกเปิดเผยได้เร็วขึ้น หากบริษัทเหล่านี้ปฏิบัติตามกฎระเบียบและกฎหมาย พวกหลอกลวงก็คงอยู่ไม่ได้แม้แต่วันเดียว ซึ่งจากการสืบสวนของทางเจ้าหน้าที่พบว่า มีเงินทุนหลบเลี่ยงที่ระบุว่าเป็นเงินเดือน ตั้งแต่หลักพันถึงหลายหมื่นหยวน ถูกโอนเข้าบัญชีธนาคารต่างๆ ที่เชื่อมโยงกับ "กวนเยว่" (Guan Yue) และ "เฉินเฉียง" (Chen Qiang) ซึ่งท้ายที่สุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมทั้งคู่ได้ พร้อมผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งหมด 53 ราย โดยมีเงินหมุนเวียนที่เกี่ยวข้องกับคดีนี้มากถึง 50 ล้านหยวน (ราว 240 ล้านบาท) ทำให้เรื่องดังกล่าวกระฉ่อน บนโซเชียลมีเดียแผ่นดินใหญ่ให้ต้องประหลาดใจอย่างมาก บางคนยังตั้งคำถามถึงสถานการณ์การจ้างงานในจีน และเรียกร้องให้มีการปรับกฎเกณฑ์และข้อบังคับที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานและไล่ออกให้เข้มงวดยิ่งขึ้น