ตำนานสะพานขาว !
"ตำนานสะพานขาว"
สะพานขาวตั้งอยู่ช่วงใจกลางพื้นที่ของมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในเขตภาคอีสานโดยรอบเป็นป่าทั้งหมด ช่วงหน้าหนาวอากาศจะเย็นมากเพราะมีต้นไม้เยอะมาก
แต่ก่อนพื้นที่ของมหาวิทยาลัยนี้เป็นที่อยู่ของคอมมิวนิสต์ซึ่งมีการ รบกันระหว่างคอมมิวนิสต์กับตำรวจทหาร ทำให้คอมมิวนิสต์ตายเป็นจำนวนมาก
ศพไม่มีที่เผาจึงทำการฝัง จากนั้นมีการก่อตั้งมหาลัยเกิดขึ้น มีการสร้างถนนตัดผ่านช่วงหลุมฝังศพของคอมมิวนิสต์ มีอุบัติเหตุเกิดขึ้นหลายครั้งและมีคนตายเป็นจำนวนมาก
มีช่วงหนึ่งที่มหาลัยดังมาก คือช่วงหนุ่มสาวคู่หนึ่งขับรถมอไซค์มาด้วยความเร็วมีใครไม่รู้เอาลวดสลิงไปขึงช่วงกลางสะพาน ทำให้คอผู้หญิงคนนั้นขาดแต่ผู้ชายยังไม่รู้ตัวว่าแฟนของตนตายแล้วเพราะตนยังก้มหน้าขับรถแบบคนขับรถเร็วทำให้ไม่โดนสลิง
เมื่อขับไปถึงปั้มน้ำมันพอจะลงจากรถจึงเห็นแฟนตัวเองคอขาด จากนั้นก็มีอุบัติเหตุหลายครั้งเกิดขึ้นบนสะพานขาว
จึงมีการอันเชิญซินแสมาทำพิธี ซินแสจึงบอกว่าให้ทำการสร้างเสาสะพานขึ้นเพื่อเป็นการไม่เหยียบหลุมศพซึ่งเป็นการลบหลู่ จึงเกิดเป็นตำนานสะพานขาวเกิดขึ้นนั่นเอง
ชายคนหนึ่ง ขับรถเข้าไปใน ม. ตอนดึก ประมาณ เที่ยงคืน ตี 1 ประมาณนี้แหละ
เขาเปิดวิทยุฟังเพลงไปด้วยเส้นทางที่จะเข้าไป ม. ต้องผ่านสะพานขาว
พอใกล้ ๆ สะพานขาวแล้ว วิทยุเขาก็ดับไปเฉยๆ เขาก็เลยปิดวิทยุ แล้วลองเปิดใหม่ เสียงเพลงที่ได้ยิน คือ ธรณีกรรแสง ใครเล่นตลกอะไรนี่ เขาเลยปิดวิทยุไปเสียเลยเพื่อตัดปัญหา
รถก็วิ่งไปเรื่อยๆ แสงไฟหน้ารถส่องไปทางข้างหน้า เขาเห็นคนสองคนเดินอยู่ไม่ไกลมากนัก
แล้วเสียงเพลงธรณีกรรแสงก็ดังขึ้นมาอีก ก่อนที่รถเขาจะวิ่งถึงคนทั้งสอง เครื่องยนต์ก็ดับ เขาเลยจอดรถ
เสียงเพลงยังดังอยู่.. และพอสองคนนั้นเดินเข้ามาใกล้..เขาก็เห็น..ผู้ชายไม่มีแขน ส่วนผู้หญิงหิ้วหัวตัวเองอยู่ ทั้งคู่ยิ้มให้เขา
(คนหรือผี) ทั้งสองเป็นใคร ทำไมถึงเป็นเช่นนี้ (เล่าไปขนลุกไปคับ)
ก็มีเรื่องเล่าอีกว่า...เมื่อประมาณ 20 กว่าปีผ่านมาแล้ว
สมัยนั้นมหาลัยมีสภาพเป็นป่าอยู่มาก และมีนักศีกษาอยู่น้อย (ปัจจุบันมี 16 คณะ นักศึกษาประมาณ 2 หมื่นคน)
ได้มีหนุ่มคณะวิศวะคนหนึ่ง มีแฟนที่รักกันมากเป็นสาวคณะพยาบาล ขี่มอเตอร์ไซค์มารับแฟนที่หอพักเป็นประจำ
และกลับหอพักทางสะพานขาวดึกๆทุกวัน มีอยู่คืนหนึ่ง ฝ่ายชายขับมอเตอร์ไซค์มารับแฟนที่หอพักไปเที่ยวในเมือง
มีผู้ร้ายจ้องจะชิงทรัพย์ ทั้งคู่ถูกปล้น และ....ตายทั้งคู่ (น่าจะเป็นเพราะผู้ร้ายขึงลวดสลิงไว้ ทั้งคู่จึงมีสภาพเช่นนั้น)
เพราะเป็นการตายแบบที่เรียกกันว่า "ตายโหง" และสภาพการตายที่น่าอนาถ วิญญาณจึงเฮี้ยนมาก
วิญญาณของทั้งคู่วนเวียนหลอกหลอนนักศึกษาและผู้คนทั่วไปที่ขับรถผ่านสะพานขาวเป็นประจำ
ทางมหาลัย จึงได้ทำพิธีกรรม อัญเชิญอัฐิของทั้งคู่ฝังไว้ในเสาสะพาน โดยแยกไว้คนละด้าน
ภายหลังมีพิธีรับน้องใหม่ โดยกลางดึกให้เฟรชชี่จับคู่ นับเสาสะพานมาจากคนละด้าน จะนับได้ไม่เท่ากัน
และว่ากันว่าถ้ากลั้นหายใจระหว่างที่นั่งรถข้ามสะพานไปจนสุดสะพานได้ โดยที่ไม่ผ่อนลมหายใจ จะอธิษฐานขอพรอะไรก็ได้
ปล.ใครเป็นศิษย์มหาวิทยาลัยแห่งนี้รู้่ความเ็ป็นมาเอามาเล่าได้นะคะ เพราะที่เจ้าที่อ่าน มีการดัดแปลงไปเยอะพอสมควร เลยไม่แน่ใจว่าตำนานไหนของจริง