"แก๊งคอลเซ็นเตอร์" อ้างเป็น ตร.ปราบคดีฟอกเงิน หลอกโอนเงิน สูญมรดกก้อนสุดท้าย 1.5 ล้านบาท
หญิง อายุ 59 ปี เดินทางเข้าแจ้งความ เพื่อให้ดำเนินคดีกับคนร้ายที่ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร ในฐานความผิดฉ้อโกงทรัพย์ หลังถูกหลอกให้โอนเงินจำนวน 1.5 ล้านบาทเข้าบัญชีของคนร้าย โดยผู้เสียหายรายนี้ เปิดเผยว่า คนร้ายได้โทรศัพท์หาพร้อมกับอ้างตัวว่า เป็นเจ้าหน้าที่หน่วยปราบปรามการฟอกเงิน
โดยสามารถจับผู้ต้องหาคดีฟอกเงินได้รายหนึ่งและให้การซัดทอดว่า ได้ซื้อบัญชีธนาคาร ซึ่งเป็นชื่อของตนมาในราคา 1.5 หมื่นบาท ทำให้ตนเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีการฟอกเงิน จึงต้องขอตรวจสอบเส้นทางการเงินของตนทั้งหมดโดยให้โอนเงินที่มีอยู่ในทุกบัญชีเข้ามาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจสอบ ตนเห็นว่าคนร้ายพูดจามีหลักการจึงหลงเชื่อ ครั้งแรกโอนเงิน 7 แสนบาทเข้าไปยังบัญชีที่คนร้ายบอก เมื่อวันที่ 22 ส.ค. ครั้งที่ 2 ได้โอนเงินไปอีก 8 แสนบาท และครั้งที่ 3 ซึ่งเป็นครั้งสุดท้าย โอนเงินไป 4 หมื่นบาท 3 ครั้ง รวมเป็นเงินทั้งหมด 1,540,000 ล้านบาท จนกระทั่งเริ่มเอะใจและมารู้ตัวอีกทีว่าถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอก
ด้านน้องสาวผู้เสียหาย กล่าวว่า มีบัญชีธนาคารอยู่เล่มหนึ่งที่เป็นชื่อของพี่สาว ซึ่งเป็นบัญชีมรดกของแม่ มีเงิน 8 แสนบาท แต่เมื่อแม่เสียชีวิตไปแล้ว พี่สาวเป็นตนเป็นคนจัดการมรดก แบ่งมรดกให้กับพี่น้องทั้ง 5 คน โดยที่ตนเอาเงินสดของตนแบ่งให้พี่น้องไปก่อน เพราะเห็นว่าบัญชีของแม่เป็นบัญชีเงินฝากพิเศษออมทรัพย์ ซึ่งดอกเบี้ยสูงก็เลยคงเก็บเอาไว้ ไม่คิดว่าพี่สาวจะมาถูกมิจฉาชีพออนไลน์หลอกเอาเงินไปจนหมดบัญชี