แท็กซี่ผีนั่ง !
"แท็กซี่ผีนั่ง"
"ลุงอิน" เล่าประสบการณ์ขนหัวลุกเมื่อขับรถให้ผีนั่ง
สมัยหนุ่มผมขับแท็กซี่อยู่ในเมืองกรุงนี่แหละครับ จอดรอผู้โดยสารมั่ง ตะลอนๆ ไปแทบทั่วทุกย่านมั่ง เอาแน่นอนอะไรไม่ได้ ยกเว้นแต่ความชำนาญทางที่ขึ้นอยู่กับความถนัดของใครของมัน
ส่วนมากผม จะหากินอยู่แถวบางลำพู ราชดำเนินกลาง ไกลสุดก็สยามสแควร์ที่กำลังบูมได้ไม่กี่ปี วกกลับมาราชเทวี ประตูน้ำ กับอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ
ถ้าเป็นละแวกนี้ผมคล่องปรื๋อ ขนาดหลับตาไปก็ยังได้ แต่ผู้โดยสารจะไปลาดพร้าว ดอนเมืองหรือว่าบางซื่อ ศรีย่าน ที่ไม่คุ้นทางก็ตกลง ขอให้ได้ราคาดีก็แล้วกัน...
อ้อ! สมัยนั้นเคยมีการใช้มิเตอร์พักใหญ่นะครับ แต่ผู้โดยสารยังนิยมไต่ถามกับต่อรองราคากันทั้งนั้น ในที่สุดมิเตอร์ก็กลายเป็นที่แขวนหมวกไปโดยปริยาย ก่อนจะเอาระบบมิเตอร์มาใช้ใหม่เมื่อ 20 กว่าปีก่อน
ยิ่งขับแท็กซี่ นานๆ ยิ่งมีประสบการณ์สารพัดละครับ ทั้งจากผู้โดยสารหลายรูปแบบ ประเภทร้อยพ่อพันแม่ตั้งแต่ผมหากินทางนี้ได้ไม่กี่ปีแล้ว
โดยเฉพาะเรื่องขนหัวลุกก็เคยเจอะเจอมาจนแทบจะหัวใจวายตาย!
ไหนๆ ก็คิดจะเล่าเรื่องผีๆ สางๆ สู่กันฟัง ผมขอข้ามเรื่องผู้โดยสารแสบๆ ไปดีกว่า เพราะอย่างน้อยส่วนใหญ่ก็ยังดี มีน้ำจิตน้ำใจ ไม่เอารัดเอาเปรียบคนหาเช้ากินค่ำ ถือว่าเป็นผู้มีพระคุณที่ช่วยชุบเลี้ยงให้รอดตายมาจนถึงวัยไม้ใกล้ฝั่งก็ แล้วกันครับ
เรื่องขนหัวลุกน่ะว่าที่จริงผมเจอะเจอมาหลายเรื่อง แต่ขอเล่าเฉพาะเรื่องเจ๋งๆ ที่ทำให้ผมหวิดเจ๊งกับแทบช็อกตายดีกว่า
เรื่อง แรกก็คือรถคู่ใจของผมเกิดรวนไม่หยุดหย่อน เหตุผลก็คือความเก่าแก่ที่ถูกใช้งานสมบุกสมบันมาหลายปี จนต้องเข้าอู่ยกเครื่องเป็นการใหญ่ เถ้าแก่ต้องจัดหารถคันใหม่มาให้ผมขับหากินจนกว่าอีแก่คันเก่าจะซ่อมเสร็จ
อ้าว? ดันไปเจอเอารถอาถรรพณ์ ว่าซะยังงั้นละกัน เพราะหาผู้โดยสารไม่ได้ ทั้งๆ ที่เห็นอยู่ตำตาว่ามีคนคอยแท็กซี่มากมาย โดยเฉพาะตอนเช้าๆ เย็นๆ แต่เมื่อผมชะลอรถเขากลับเบือนหน้าหนีไปเรียกคันหลังซะงั้น จะว่ารถเก่าก็ไม่ใช่ สภาพดีกว่าคันเก่าตั้งพะเรอแน่ะ
มาเอะใจตอน ที่มีผู้โดยสารแถวบางลำพูชะโงกหน้ามองแล้วหดกลับ จังหวะเดียวกับผมที่ขับรถเข้าไปเทียบพอดี คราวนี้เขาหันมามอง ยิ้มออกมาได้ก่อนจะเปิดประตูก้าวขึ้นเบาะหลัง ถอนใจใหญ่แล้วบอกผมเป็นเชิงออกเนื้อออกตัว
"ขอโทษทีน้องชาย เมื่อกี้คงจะตาฝาดไปน่ะ เห็นมีผู้หญิงนั่งอยู่ข้างหลังก็เลยมองหาคันอื่น จนน้องชายมาจอดตรงหน้านี่แหละถึงได้เห็นว่ารถว่าง..."
ผมขนลุกซ่า อ้าปากค้าง...นึกออกเดี๋ยวนั้นเองว่าทำไมคนที่ยืนคอยแท็กซี่ทำท่าว่าจะเรียก แท้ๆ แต่กลับหันไปเรียกรถว่างคันหลังแทน...เรื่องเป็นยังงี้นี่เล่า แม่เจ้าประคุณรุนช่อง มาแกล้งกันได้!
ถึงเวลาส่งรถผมก็ต่อว่าเถ้าแก่ ทันที อารามกลัวผีกับหาเงินไม่ได้ทำให้ไม่ต้องยั้งคิดอะไรแล้ว...เถ้าแก่เอารถผี สิงที่ไหนมาให้ผมน่ะ? หาเงินได้แค่สามเที่ยวแทบจะไม่พอค่าน้ำมันด้วยซ้ำ เรื่องค่าเช่าไม่ต้องพูดเลย...มีผู้หญิงมานั่งเบาะหลังตลอดใครมันจะขึ้น?
เถ้าแก่ หน้าซีดเป็นไก่ต้ม ดีอย่างที่ยอมรับว่า รถคันนี้มีผู้หญิงเป็นลมตายคารถ ผีดุเอาเรื่อง เจ้าของเขาเอามาขายถูกๆ ก็เลยรับไว้ คิดว่ามาอยู่ที่นี่คงไม่มีปัญหาอะไร...น่าจะไปผุดไปเกิดแล้ว
ผมกระเดือกน้ำลายอึกเบ้อเร่อ
"ไปผุดไปเกิดที่ไหนล่ะ? นั่งตัวแข็งทื่ออยู่ในรถทั้งวัน ไม่เชื่อก็หันไปดูซี่"
เท่า นั้นแหละครับ เถ้าแก่สะดุ้งเฮือก หันขวับไปมอง...ถึงแม้จะไม่เห็นอะไรแต่ก็ปากคอสั่น บอกว่าวันนี้ไม่คิดค่าเช่าก็แล้วกัน อั๊วเห็นใจว่ะ! พรุ่งนี้จะหาคันใหม่ให้ลื้อขับ ถ้ารู้ว่าผีดุยังงี้อย่าว่าแต่ขายถูกเลยโว้ย ให้เปล่าๆ อั๊วยังไม่เอา
ผมถอนใจอย่างโล่งอก เถ้าแก่บอกว่าจะขายรถผีสิงให้คนอื่นต่อไป ผมเลยยุส่งบอกว่าดีมาก...แต่คืนนี้ระวังจะมีผู้หญิงออกจากรถเข้าไปหาเถ้าแก่ ในบ้านก็ได้นะ!
เท่านั้นละ แกด่าโขมงจนผมอดหัวเราะไม่ได้ ทั้งๆ ที่นึกถึงภาพขับรถให้ผีนั่งแล้วยังขนลุกซู่ซ่าอยู่ไม่วายเลยครับ! บรื๋ออออ...
ที่มา: