โรงพยาบาลบ้า !!
#โรงพยาบาลบ้า
เรื่องนี้เกิดขึ้นกับคุณนกซึ่งเป็นญาติของคุณคิง เป็นประสบการ์ณที่เกิดขึ้นตอนคุณนกบำบัดอาการติดเหล้าอยู่ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง
โดยผู้ป่วยที่สมัครใจเข้ารับการบำบัดจะต้องเซ็นยินยอมรับการบำบัด และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยไม่ถูกจำกัดขอบเขต
โดยใช้เวลาทั้งหมด2เดือน ทุกเย็นผู้ป่วยจะได้รับยาลดอาการอยากสุรา ทำให้มีอาการซึม บางคนถึงกับน้ำลายไหล
ซึ่งเตียงผู้ป่วยตรงข้ามคุณนกนั้น จะเป็นลุงคนหนึ่งซึ่งมีอาการติดสุรามาก ตอนกลางวันจะไม่มีใครพบเห็นแก แต่ตอนกลางคืนแกจะมีอาการคุ้มคลั่งและถูกพามามัดอยู่บนเตียง ทุกคนในห้องนั้นต้องทนฟังเสียงแกโวยวายจนกว่ายาจะออกฤทธิ์ถึงจะนอนกันได้
หลังจากที่คุณนกบำบัดได้เกือบเดือน อาการเริ่มดีขึ้น และสามารถอยู่ได้โดยไม่ติดสุราอีก ก็เกิดความสงสัยถึงลุงคนนั้นว่าแกหายไปไหน จึงได้ถามกับป้าพนักงานโรงพยาบาล ป้าแกก็ตอบมาแบบไม่พอใจ
“มันตายไปแล้ว!!!“
คุณนกเลยคิดแค่ว่าป้าคนนั้นแค่ไม่อยากคุยกับตนเอง เพราะปกติป้าคนนั้นก็ไม่คุยกับผู้ป่วยอยู่แล้ว
คืนหนึ่งคุณนกก็กินยาตามปกติ สักพักก็เห็นลุงคนเดิมเดินมาที่เตียง คุณนกก็พยักหน้าให้ แต่ในขณะที่ยาเริ่มซึมออกฤทธิ์ คุณนกก็เห็นลุงเริ่มกระสับกระส่าย ลุกนั่งและเริ่มร้องโวยวาย
ในขณะที่หนังตาของพี่นกเริ่มจะปิดเพราะฤทธิ์ยา คุณนกเห็นลุงลุกขึ้นมากระชากคอคุณนกแล้วตะคอกถาม
“สงสัยอะไร มึงสังสัยอะไร!!”
แล้วคุณนกก็หลับไป
เช้าวันรุ่งขึ้นคุณนกก็เลยถามป้า
“ไหนว่าลุงแกตายไปแล้วไง เมื่อคืนผมยังเห็นแกอยู่เลย”
ป้าก็ตอบกลับมาว่า “ก็บอกว่ามันตายไปแล้วไง”
คุณนกไม่พอใจกับคำตอบของป้าคนนั้น
จึงหันไปบ่นกับลุงเตียงข้าง ๆ คุณลุงก็ตอบว่า
“ไม่ต้องใส่ใจหรอก ถึงเวลาก็กินยาให้หลับไปไอ้หนุ่ม”
คืนนั้น ลุงก็มาอีก แล้วก็มากระชากคุณนกเหมือนเดิมแล้วพูดประโยคเดิม
“สงสัยอะไร มีงสงสัยอะไร!!”
คุณนกเลยเริ่มคิดว่าตัวเองโดนหลอกอยู่แน่ ๆ
จึงทำเรื่องจะขอกลับบ้าน ถ้าไม่ให้กลับก็ขอย้ายห้อง หมอเลยมาตรวจคุณนกและให้ย้ายไปอีกตึกสำหรับผู้ป่วยเตรียมกลับบ้าน
ที่ตึกนั้นจะมีทีวี และให้อยู่รวมกันชายหญิง คุณนกเจอกับเด็กสาวคนหนึ่งกับผู้หญิงวัยสี่สิบอีกคน ก็ได้คุยกันปกติ
ตกกลางคืน ในระหว่างที่คุณนกกำลังดูทีวีอยู่ จู่ ๆ ทีวีก็ดับไป คุณนกเลยเดินไปเปิด เมื่อเดินกลับมาที่เตียง ก็เห็นหญิงสาววัยยี่สิบต้นนั่งกอดเข่าเอาคางเกยเข่านั่งอยู่บนเตียงข้าง ๆ
“อ้าว เพิ่งย้ายมาใหม่หรอ”
คุณนกถาม
หญิงคนนั้นได้ตอบว่า
“ขอดูทีวีด้วยค่ะ”
“เชิญเลยครับ น้องจะดูช่องไหน เดี๋ยวพี่นอนก็ได้” คุณนกตอบ
คุณนกก็หันไปตะโกนเรียกหญิงสองคนนั้น จากปกติที่เค้าจะคุยตอบก็กลับเงียบ ผ่านไปสักประมาณครึ่งชั่วโมง หญิงสาวที่มาใหม่คนนั้นก็นิ่งและนั่งอยู่ท่าเดิม ไม่ขยับไปไหนเลย
คุณนกจึงหันไปถามว่าจะนอนรึเปล่าถ้านอนจะปิดทีวีให้ ผู้หญิงคนนั้นยืดตัวขึ้นแล้วตอบว่า
“แค่ช่วยเบา ๆ หน่อยก็ได้ค่ะ ไม่ต้องเหมือนทุกวัน”
คุณนกจึงปิดทีวีและหันกลับมากำลังจะล้มตัวลงนอน ก็เห็นผู้หญิงคนนั้นอ้าปากกว้างแล้วส่งเสียงร้อง
“แหะ แหะ แหะๆๆๆๆ แอร๊แฮ๊รรรรรร!!!”
แล้วกรีดร้องสุดเสียง พี่นกก็รู้สึกตกใจเพราะผู้หญิงวัยยี่สิบคนนั้นหัวเราะและอ้าปากกว้างผิดมนุษย์
คุณนกรีบหนีออกมาจากห้องพร้อมกับผู้หญิงสองคนนั้นที่ลุกขึ้นมาจากเตียง พวกเขาพากันวิ่งออกไปจากห้องจนไปเจอบุรุษพยาบาลสองคน บุรุษพยาบาลจึงถามไปว่า
“อ้าวไหนว่าหายดีแล้วไง ทำไมยังคุ้มคลั่งอยู่”
คุณนกกับผู้หญิงสองคนที่วิ่งหนีออกมาด้วยกัน พยายามอธิบายสิ่งที่เจอ แต่บุรุษพยาบาลกลับไม่เชื่อ ได้แต่ไล่คพวกเขาสามคนให้กลับเข้าห้องไป
พวกคุณนกจึงกลับเข้าไปในห้องและไปอยู่รวมกันที่มุมห้อง ทีวีก็ยังเปิดอยู่ และเปลี่ยนช่องเองทั้งคืน
รุ่งเช้าคุณนกจึงรีบโทรตามภรรยาและคุณคิงให้มารับกลับ เพราะต้องมีญาติมาเซ็นต์ยินยอมถึงรับกลับได้