ประสบการณ์หลอน ผีสวดมนต์ตาม !!
ประสบการณ์หลอน ผีสวดมนต์ตาม
เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อราว 15 ปีก่อน ที่บ้านของผมเอง วันนั้นผมอยู่บ้านคนเดียวจึงเปิดทีวีแล้วตั้งปิดไว้ น่าจะหลับคาทีวีไปราวช่วงห้าทุ่มผมนอนบนโซฟาแบบเข้ามุมรู้สึกตัวมาอีกทีช่วงราวตี3 ตี4 เพราะมีความรู้สึกเย็นวาบบบบบ ขนลุกทั้งตัวมาที่หลังคือในหัวตอนนั้นรู้สึกได้ว่ามีผู้ชายแก่ๆ นั่งอยู่อีกฝั่งของโซฟาด้วยความที่ตอนนั้นเป็นคนไม่ค่อยกลัวผี จึงทักไปว่า “สวัสดี” ทันใดนั้นเองงง“สวัสดี” เป็นเสียงที่มาจากอีกฝากของโซฟาเสียงผู้ชายแก่ๆ เสียงทุ้มๆ“เอาแล้วสิวะกู” ผมอุทานขึ้นในใจ
ตอนนั้นใจเต้นระรัวมากกกก จนคิดว่ามันจะทะลุออกมาแล้ว ตุ๊บๆๆๆๆๆๆ
สิ่งแรกที่คนเจอผีต้องทำคือสวดมนต์ ผมนึกขึ้นได้จึงสวด นะโม3จบ
แต่! ผีมันก็สวดได้เหมือนผม“เอาไงละที่นี้กู นะโมไม่ผล อิติปิโสแล้วกันวะ อิติปิโสภควา ปุญญะเขตตังโลกาสาติ”ท่องอิติปิโสจนจบคิดว่าผีมันจะไปที่ไหนได้“อิติปิโสภควา ปุญญะเขตตังโลกาสาติ” เป็นเสียงที่ดังมาจากอีกฟากของโซฟาซวยแล้วสิกูผีท่องอิติปิโสได้! ช่วงเวลานั้นก็นึกถึงฝันเมื่อเดือนก่อนที่ฝันว่าพระมาให้คาถาชินะบัญชร ซึ่งผมก็ลองฝึกท่องได้ท่อนหนึ่งจึงท่องไป“ชะยาสะนากะตา เยปิวิงสุนะราสะภา” ผมท่องได้แค่นี้สิ่งที่เกิดขึ้นต่อมาคือเหมือนเดิมเพิ่มเติมคือผีท่องจบบท แต่ตูท่องได้แค่วรรคเดียวสุดท้ายสิ่งที่ทำได้คือทำสมาธิ หายใจเข้าพุทธ หายใจออกโท ทำสมาธิจนเวลาผ่านไปน่าจะราวครึ่ง ชม. ก็เกิดสิ่งที่ผมกลัวที่สุดในชีวิต
จากที่เคยคิดว่าผีทำได้แค่หลอก วันนี้มันไม่ใช่แล้ววว
หลังจากผมทำสมาธิไปแล้ว ผ่านไปสักพัก ผมยังรู้สึกได้ว่าผียังอยู่
และเหตุการณ์ประหลาดก็เกิดขึ้นกับตัวผม อยู่ดีๆผมก็รู้สึกเหมือนจิต
กำลังจะออกจากร่างผม พอหายใจเข้าพุทธ ก็เหมือนดึงจิตกลับมา
หายใจออกโท เหมือนจิตกำลังจะออกไปครึ่งร่างพอหายใจเข้าก็กลับมาใหม่
ในใจตอนนั้นคิดว่าเอาแล้วสิกู วิญญาณกุจะออกจากร่างเหรอ กุจะตายไหม กุจะทำไงดีกุจะตายหรอๆๆๆ มีแต่คำนี้วนเข้ามาในหัวเป็นร้อยๆครั้งระหว่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นผมยื้อจิตเข้าออกมาแบบนี้ราวครึ่ง ชม. จนเพลียหลับไป รู้สึกตัวตื่นขึ้นมาจนเกือบฟ้าสางแต่ๆๆมันมาอีกแล้ว ผมต้องภาวนาต่อเพื่อดึงจิตไว้และสุดท้ายสิ่งที่ช่วยชีวิตผมไว้คือพระอาทิตย์แสงสว่างส่องผ่านกระจกผมจึงกลั้นใจวิ่งไปที่ประตูบ้านแล้วเปิดออกไปทันที โดยไม่หันไปมองอีกด้านของโซฟากุรอดแล้วโว้ยยยย ดีใจที่สุดที่ตัวเองไม่ตายไม่เป็นอะไร โล่งอกแบบสุดยอดมาก
แต่บ้านก็คือบ้านยังไงก็ต้องนอนที่นี้อยู่ดี ตั้งแต่เหตุการณ์ครั้งนั้นทำให้ผมนอนเปิดไฟตลอดผมนอนป่านอนดงได้ บางทีก็ไปนอนเพิงในไร่คนเดียวบ่อยๆ แต่นอนบ้านนี้ขอใครอย่ามาปิดไฟตู แต่ผมรู้สึกได้ว่าเค้ายังไม่ไปไหน เค้าจะมาเรียกผมว่า “ไอ้ดำ”เป็นน้ำเสียงแบบดุดันมาก เวลากึ่งหลับกึ่งตื่น ปีละหนสองหน แต่เรียกแล้วก็จบแค่นั่นไม่น่ากลัวเหมือนครั้งแรกประสบการณ์ครั้งนี้บอกผมว่า ผีทำได้มากกว่าแค่หลอก