หน้าแรก ตรวจหวย เว็บบอร์ด ควิซ Pic Post แชร์ลิ้ง หาเพื่อน Chat หาเพื่อน Line หาเพื่อน Skype Page อัลบั้ม คำคม Glitter เกมถอดรหัสภาพ คำนวณ การเงิน
ติดต่อเว็บไซต์ลงโฆษณาลงข่าวประชาสัมพันธ์แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสมเงื่อนไขการให้บริการ
News บอร์ดต่างๆค้นหาตั้งกระทู้

ทริปหลอนต่างประเทศ กับเจ้าถิ่นที่เราไม่อยากเจอ !!

เนื้อหาโดย tanumetn

ทริปหลอนต่างประเทศ กับเจ้าถิ่นที่เราไม่อยากเจอ

 

         ครั้งเมื่อไปเที่ยวเชจู ประเทศเกาหลี ในเดือนสิงหาคมเมื่อ 2 ปีที่แล้ว กับทีมที่ทำงานเราและเพื่อนร่วมงานได้ซื้อทัวร์ 9,990บาท 4วัน2คืน รวมตั๋วเครื่องบิน+ที่พัก (ราคาดีงาม) ซึ่งทีมเราตอนนั้น มีกัน 7 คน ผู้หญิง 5 คน หัวหน้าและแฟนหัวหน้า เราเป็นเด็กสุดในทีม เลยได้จับคู่นอนห้องหญิงล้วน 3 คน และอีกสองห้องก็แบ่งกัน ในวันแรกของทริป บินถึงที่หมายที่สนามบินนานาชาติเชจู ไกด์นำเที่ยว เป็นหนุ่มไทย อัธยาสัยดี และหนุ่มเกาหลีน่ารักมารอต้อนรับ ซึ่งทริปนี้เป็นทริปต่างประเทศแรกที่เราไม่มีเนต ไกด์บอกว่า “จะได้เที่ยวเต็มที่” ทุกคนก็ตกลงตามนั้นกันตามระเบียบ เพราะแค่ 4 วัน 2 คืน เท่านั้น

 

         จังหวัด เชจู เป็นเกาะที่มีความสวยงามธรรมชาติ ทัวร์พาเราไปยังสถานที่แรก พิพิธภัณฑ์พื้นบ้านเชจูวิลเลจ เราก็เดินเล่นเจอกรุ๊ปทัวร์ไทย-เทศมากมาย ชาวบ้านเจ้าหน้าที่ยิ้มแย้มเต็มใจบริการ ซื้อขายยาบำรุงกันสนุก แต่ในขณะเดียว เราเองยอมรับว่าที่นั่นอากาศเย็นมากเลย ซึ่งตอนนั้นคิดว่าคงธรรมดาสำหรับเมืองที่โอบล้อมด้วยทะเล ทัวร์ก็พาเที่ยวอีก 2 จุด จนถึงตอนเย็นของทริป ทางทัวร์พาเราไหว้พระใหญ่ Sanbangsa temple ซึ่งโดดเด่นด้วยพระใหญ่สีทอง และเรากับทีมก็อุดหนุนซื้อเทียนไหว้พระขอพร พับแบงค์ตามคำแนะนำของทัวร์และเมื่อพระอาทิตย์ตกดินทัวร์ก็พาเข้าที่พัก ซึ่งเป็นโรงแรมระดับ 3 ดาว คนละอันกับที่ในโปรแกรมที่ทัวร์บอก และไกด์ให้เหตุผลว่า “โรงแรมนั้นเต็มทัวร์ลงเยอะ

ที่นี่ห้องใหญ่กว่ารร.แรกอีกนะ อีกนานาเหตุผลที่ดี” ซึ่งที่ตั้งรร.นี้แยกจากตัวเมืองใหญ่และเป็นตึกขาวที่ดูใหม่ระดับหนึ่ง ในตอนนี้เราเองก็ขอให้ทัวร์สั่งไก่ทอดเบียร์เพื่อทานกับเพื่อนร่วมงานก่อนแยกย้ายอาบน้ำนอน

ตอนที่แยกย้ายทุกคนก็พูดว่า “เหนื่อยขนาดนี้อยากนอนแบบไม่อาบน้ำเลย”

 

       ในห้องเป็นเตียงเดี่ยวขนาดใหญ่ 2 เตียงเราสามคน พยายามย้ายมาชิดก็ไม่สามารถจริงๆเราก็เลยนอนเตียงเดี่ยวกับพี่ที่ตัวเล็กสุด และฝั่งที่นอนก็กึ่งตรงกลางของสองเตียงในขณะที่กึ่งหลับกึ่งตื่น แต่หนังตาปิดและนั้นได้ ก็มีเสียงเดินเท้าหนักๆและเสียงเคาะประตูซึ่งไม่ได้ดังมากเท่าไหร่ในทีแรก แต่ก็ดังขึ้นเรื่อยๆราวกับไล่เคาะมาที่ละห้องเราก็เลยรู้สึกแปลกใจ แต่ก็ไม่มีความคิดไปเปิดประตูนะแค่พยายามลืมตา มองซ้ายขวาพอเห็นว่าเพื่อนหลับกันสบายอ้าปากกรนเบาๆก็เลยเฉยๆไป

 

        เมื่อเสียงนั้นก็เงียบลง กลับทำให้บรรยากาศห้องเงียบราวกับหูเราอื้อ

แน่นอนว่า เราเลือกที่จะหลับตาปล่อยผ่านดีกว่า และสิ่งที่ไม่อยากคิดก็เกิด

เมื่อห้องน้ำมีเสียงเปิดน้ำ เราหลี่ตาในแสงสลัวไปทางซ้าย และขวา ก็พบว่าเพื่อนร่วมห้อง นอนหลับกันสนิท ตอนนั้นในหัวก็เริ่ม Blank รีบหลับตาไม่ขยับตัวนิ่ง จนเริ่มรู้สึกตัวเริ่มชาเราจึงค่อยๆ พยายามใช้ตัวคลานช้าๆสอดตัวลงในใต้ผ้าห่มรร.ในความเงียบสงัด ช่วงอึดใจ หัวใจเราก็เต้นไม่เป็นจังหวะทันที เมื่อมีเสียงผู้ชายกระซิบมาจากปลายเตียง เนื้อหาเสียงพูดนั้น ฟังไม่รู้เรื่องไม่รู้ภาษาอะไร และน้ำหนักของบางสิ่งก็กดลงปลายเตียงที่เท้าของเราทันที เหมือนมีการลงน้ำหนักไล่จากขาขึ้นสูงมาเรื่อย ขนแขนเราลุก เราอึดอัดและหายใจแทบไม่ออก ในตอนนั้นเรากลัวจนตัวเย็น ตัดสินใจพยายามร้องเรียกพี่ร่วมห้องทั้งสอง เราเปล่งสุดเสียงด้วยความกลัวและตกใจ ในขณะเดียวกันเราไร้ความรู้สึกที่แขนขาราวกับมันไม่ใช่ร่างกายเราแล้วแต่เสียงที่ตัวเองคิดว่าเปล่งดังนั้นกับแหบหายไปเหมือนเป็นใบ้ น้ำตาไหลเราไหลอย่างทรมานในใจนึกถึงบทสวดชินบัญชร แต่ก็นึกไม่ได้ทั้งบท อิติปิโส นโม ขนมาทุกวัดในขณะที่ภาวนาบทสวดนั้นเสียงพูดของผู้ชายก็สวนมา ซึ่งเราฟังไม่รู้เรื่อง พลันฉุดคิดได้ว่าทางนั้นก็คงคิดว่าเราพูดอะไร เค้าก็ฟังไม่รู้เรื่อง ในหัวตอนนั้นนึกถึงไปยังพระใหญ่สีทองของเชจูที่เราได้ไหว้ตอนเย็น พยายามนึกถึงท่าน “ช่วยด้วย” “ช่วยด้วยปล่อยหนูไป”

เราเปล่งออกมา จากเสียงแหบแห้งนั้นจนมันเปร่งดังออกมา ร่างกายเริ่มคืนกลับมาเป็นของเราพอเสียงเราดังทันใดนั้น ทุกอย่าง ไม่ว่าจะบรรยากาศที่น่าขนลุกก็หายไปแต่พี่ทั้งสองยังคงหลับเหมือนไม่ได้ยินอะไร

 

       ในตอนเช้า เราเดินไปทานข้าวเช้ารร. ด้วยสีหน้าที่แย่มาก จนถูกทักว่านอนไม่หลับหรอหรือแฮงค์เบียร์ คือขณะนั้นเอง เราทำได้แค่ตอบ “อือ” เพราะเราอยากออกไปจากรร.นี้โดยไม่ต้องมีเรื่องอะไร พอเจอไกด์นำเที่ยวเราเดินตรงไปถามว่า “เปลี่ยนรร.ไหมคะคืนนี้”ไกด์ยิ้มและตอบว่า “มีอะไรหรอ คืนนี้เรานอนที่นี่อีกคืนนะ เพราะที่อื่นมันเต็ม”ไม่ว่าเราจะขอร้องแค่ไหน ทางไกด์ก็ไม่ได้ช่วย เราเดินกลับไปยังโต๊ะเพื่อทานข้าวซึ่งไม่รู้ว่าเราแสดงสีหน้าอย่างไร แต่เรากลัวมากจะไปโวยวายก็ทำไม่ได้เพราะเป็นเด็กสุดที่ทำงาน หน้าเราตอนนั้นคงแย่มาก จนพี่ร่วมห้อง (ขอสมมุติว่าเป็น A)ถามว่า “มีอะไรหรอ พวกพี่กรน หรือไง” และก็หัวเราะขำๆเราได้เเต่ยิ้มเจือนๆ ส่ายหน้า คิดแต่ในหัวควรพูดไหมพี่ร่วมห้องคนที่นอนเตียงเดียว(ขอสมมุติว่าเป็นB)ก็เสริมว่า“เมื่อคืนเราท้องเสียหรอเปล่าเห็นเดินไปเข้าห้องน้ำนาน จนพี่หลับก่อนเลย”เราหันไป ตกใจสุดๆ…. “พี่คะ ไม่ใช่…คือหนูขอโทษ แต่ หนูคิดว่าที่นี่มีบางสิ่ง.”

 

           เราหยุดแค่นั้น อยากเล่าตอนออกจากรร.นี้ไปก่อน เมื่อเล่าไปจนจบพี่ B ก็เสริมว่า“ฉันยังงงอยู่ทำไมเราเดินเสียงดัง และเงียบไปนาน” พี่A ซึ่งเป็นสาวเหนือใจเย็นและใจดีมาก ปลอบเราว่า “ไม่เป็นไรนะเดี๊ยวคืนนี้ใส่เเหวนพี่” มือก็ยกแหวนนั้นให้ดูซึ่งมีลักษณะเป็นแหวนตัวเรือนเงินและมีหินฟ้า พี่ A ก็เสริมว่า“แหวนนี้พี่พกติดตัวเวลาเที่ยว หินสีฟ้าจะทำหน้าที่ไล่ความชั่วร้ายไปได้” ทริปวันที่สองของเราหลับในรถตลอดไม่มีแรงเลย

 

            ตกกลางคืน เราก็เตรียมเข้านอนอย่างเครียดสุดๆ เราชั่งใจมองเตียงนานมากพี่ทั้งสองก็ให้เราเลือกว่าจะเปลี่ยนที่นอนไหม่ แต่เราเลือกนอนที่เดิมไม่ใช่ด้วยใจกล้า แต่ที่เดิมคือตรงกลาง น่าจะดีกว่าทุกจุด ในคืนนี้เราสวมแหวนที่พี่ A ให้และเรียกว่าสักพักเราก็ นอนสลบ เพราะร่างกายที่อ่อนล้า และจนตื่นขึ้นเมื่อได้ยินเสียงห้องน้ำดังพบว่ามันเป็นเวลาเช้าแล้ว เมื่อตื่นขึ้นก็เห็นพี่ A ยิ้มให้ และถามว่า “นอนสบายดีไหม”เรายิ้มขอบคุณ และยื่นแหวนคืนให้ ” ค่ะ มีแรงซื้อของฝากและเนี่ย ขอบคุณนะคะ”พอพี่ B เดินออกจากห้องน้ำก็รีบมานั่งปลายเตียง ด้วยสีหน้าที่แย่ และถามเราว่า

“เมื่อคืนไม่ได้นอนอีกละใช่ไหม พี่เห็นเรานั่งที่ปลายเตียง เรียกเท่าไหร่ก็ไม่ตอบ!!! ““เนี่ยพี่เลยจับให้เรานอนเราเลยนอน” ในขณะที่พี่B เล่า

เรากับพี่ A ตกใจมากๆเลย พี่ A ก็ยืนยันว่าเราหลับสบายเพราะเค้านอนไม่หลับตื่นที่ไรก็มองเห็นเรานอน ส่วนพี่ B ก็ยืนยันเรื่องที่เรานั่งปลายเตียง

และบทสนทนานั้นจบง่ายมาก เพราะเมื่อเรามองตากัน เราสามคนก็พร้อมใจเป็นหญิงหน้าสดรีบเก็บกระเป๋าลงข้างล่างทันที

เนื้อหาโดย: tanumetn
⚠ แจ้งเนื้อหาไม่เหมาะสม 
tanumetn's profile


โพสท์โดย: tanumetn
เป็นกำลังใจให้เจ้าของกระทู้โดยการ VOTE และ SHARE
Hot Topic ที่น่าสนใจอื่นๆ
ทีมสารคดีพบร่าง นักปีนเขาเอเวอร์เรสต์ หลังผ่านไป 100 ปีช็อก ต่างชาติเปรียบเทียบล่องเรือไทย-กัมพูชา งานเดียวกัน แต่ทำไมต่างกันขนาดนี้'ธันวา'ช้างไทยที่วาดรูปสวยไม่แพ้คน!โรคเบาหวานกับฟัน สัมพันธ์กันอย่างไร เรื่องสำคัญที่ควรรู้ ส่งผลต่อกันอย่างไร ?บอสพอล มั่นใจ The iCON ไม่ผิดกฎหมาย ยันไม่ได้ติดต่อคืนเงินผู้เสียหายนิการากัวตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอลแล้วโรคเครียดฉับพลัน Acute stress disorder (ASD) หรือ โรคเครียดหลังเผชิญเหตุการณ์รุนแรง Posttraumatic stress disorder (PTSD)พนักงานของโรงงานรถถังรัสเซีย ติดคุก 12 ปีครึ่งหลังขายข้อมูลให้ยูเครนครอบครัว โล่งใจ หลังพบเท้าของนักปีนเขาปี 1924 บนเอเวอเรสต์แม่น้ำแซมบีซี (Zambezi) เส้นทางแห่งธรรมชาติและพลังงานในแอฟริกาคฤหาสน์ Jessie J ถูกปล้น เครื่องประดับมูลค่ากว่า 600,000 บาท !  โดยแก๊งโจรที่มุ่งเป้าดาราชื่อดังเจ้าแม่กาลี
Hot Topic ที่มีผู้ตอบล่าสุด
พนักงานของโรงงานรถถังรัสเซีย ติดคุก 12 ปีครึ่งหลังขายข้อมูลให้ยูเครนคฤหาสน์ Jessie J ถูกปล้น เครื่องประดับมูลค่ากว่า 600,000 บาท !  โดยแก๊งโจรที่มุ่งเป้าดาราชื่อดังเจ้าแม่กาลีแม่น้ำแซมบีซี (Zambezi) เส้นทางแห่งธรรมชาติและพลังงานในแอฟริกาครอบครัว โล่งใจ หลังพบเท้าของนักปีนเขาปี 1924 บนเอเวอเรสต์
กระทู้อื่นๆในบอร์ด ข่าววันนี้
Star Wars เปิดตัว Stormtrooper ข้ามเพศคนแรกพนักงานของโรงงานรถถังรัสเซีย ติดคุก 12 ปีครึ่งหลังขายข้อมูลให้ยูเครนนิการากัวตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอลแล้วทีมสารคดีพบร่าง นักปีนเขาเอเวอร์เรสต์ หลังผ่านไป 100 ปี
ตั้งกระทู้ใหม่