ราคาน้ำมันดิบโลกพุ่งทะลุ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอีกครั้ง
ราคาน้ำมันดิบโลกพุ่งทะลุ 100 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลอีกครั้งในวันนี้ (26 สิงหาคม 2566) โดยสัญญาน้ำมันดิบเบรนต์ส่งมอบเดือนตุลาคมเพิ่มขึ้น 1.14 ดอลลาร์ หรือ 1.0% ปิดที่ 100.97 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล และสัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสอินเตอร์มีเดียต (WTI) ส่งมอบเดือนกันยายนเพิ่มขึ้น 1.04 ดอลลาร์ หรือ 1.0% ปิดที่ 97.66 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบในครั้งนี้ เป็นผลมาจากความกังวลเกี่ยวกับอุปทานน้ำมันที่ตึงตัวจากการคว่ำบาตรรัสเซีย โดยรัสเซียเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อันดับสองของโลก และถูกคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจจากหลายประเทศ เนื่องจากกรณีการบุกรุกยูเครน
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยอื่นๆ ที่ส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบให้สูงขึ้น เช่น ความต้องการใช้น้ำมันทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 รวมถึงความไม่แน่นอนทางการเมืองในตะวันออกกลาง
การพุ่งขึ้นของราคาน้ำมันดิบในครั้งนี้ ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจทั่วโลก เนื่องจากทำให้ต้นทุนการขนส่งสินค้าและการผลิตสินค้าต่างๆ สูงขึ้น ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นตามมา
สำหรับประเทศไทย ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในประเทศก็ปรับตัวสูงขึ้นเช่นกัน โดยราคาน้ำมันเบนซิน 95 อยู่ที่ลิตรละ 39.36 บาท และราคาน้ำมันดีเซลอยู่ที่ลิตรละ 34.94 บาท
หากราคาน้ำมันดิบยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไป คาดว่าจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยในหลายด้าน เช่น ต้นทุนการขนส่งสินค้าและการผลิตสินค้าต่างๆ สูงขึ้น ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อเพิ่มสูงขึ้นตามมา นอกจากนี้ ผู้บริโภคอาจลดการใช้จ่ายลง เนื่องจากค่าครองชีพสูงขึ้น
รัฐบาลไทยจึงจำเป็นต้องติดตามสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบอย่างใกล้ชิด และเตรียมมาตรการรับมือหากราคาน้ำมันดิบยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไป
อ้างอิงจาก:
สำนักข่าว Reuters
สำนักข่าว Bloomberg
สำนักข่าว CNN
เว็บไซต์กระทรวงพลังงาน