เนอสเซอรี่ทำลูกสาวดับอนาถ แม่ไม่ยอมงานนี้เตรียมสู้เพื่อลูก
นางสุปราณี พรมจำปา คุณแม่อายุ 35 ปี อาชีพพนักงานเอกชน ซึ่งเป็นแม่ของน้องปาลิน
วัย 3 เดือน 8 วัน นำหลักฐานเข้าร้องทุกข์ขอความเป็นธรรมกับทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์
ประธานเครือข่ายทวงคืนความยุติธรรมในสังคม เพื่อขอความช่วยเหลือทางคดี
หลังจากพาลูกสาวน้องปาลินไปฝากเลี้ยงที่เนอสเซอรี่รับเด็กแห่งหนึ่งใน กทม. เพียงวันเดียว
แต่ลูกสาวเกิดสำลักนมจนเสียชีวิต
นางสุปราณี เล่าทั่งน้ำตาว่า หลังจากคลอดน้องปาลินออกมา ตนได้เลี้ยงดูลูกสาวเพียงคนเดียว
มาโดยตลอดกระทั่งน้องปาลินอายุได้ 3 เดือน 8 วัน ตนต้องไปทำงานเพื่อหาเงินมาดูแลครอบครัว
จึงได้ตัดสินใจพาน้องปาลินไปฝากเลี้ยงที่เนอสเซอรี่แห่งหนึ่ง ภายในซอยศรีนครินทร์ 40 ซึ่งอยู่ใกล้
กับที่ทำงาน ขับรถไม่ถึง 10 นาที ตอนแรกที่เข้าไปดูก็เห็นว่า ที่เนอสเซอรี่ดังกล่าว อยู่ภายใต้คอนโด
มีเด็ก ๆ ที่ถูกนำมาฝากเลี้ยงอยู่ประมาณ 5-6 คน และมีครูที่ดูแลรับเลี้ยงเด็ก 1 คน ชื่อครูแอม
อายุประมาณ 40-50 ปี และเป็นเจ้าของเนอสเซอรี่ดังกล่าวด้วย คิดว่ารับฝากเสี้ยงน้องแรกเข้า
เป็นเงิน 6,200 บาท
กระทั่งวันที่พาน้องไปฝากเลี้ยงเป้นวันแรก แล้วแม่ก็ไปทำงานปกติทางครูก็
แจ้งรายละเอียดมาทางแชทตลอดว่า น้องปาลินทำอะไรอยู่ ตลอดทั้งวัน จนกระทั่งเวลา 16.43 น.
ทางครูแอมได้โทรศัพท์มาบอกตนว่า น้องปาลินมีอาการสำลักนม แล้วขาดอากาศหายใจจน
ตัวเขียวคล้ำไปทั้งตัว จึงรีบพาส่งไปรักษาที่คลินิก ด้วยความเป็นห่วงลูกสาว
ตนจึงรีบเดินทางไปที่คลินิกใช้เวลาประมาณ 10 นาที เมื่อไปถึงเห็นหมอพยายามช่วยกันปั้มหัวใจน้อง
อยู่แต่อาการไม่ดีขึ้น ต้องรีบตัวนำส่ง รพ.สินแพทย์ ศรีนรินทร์ แต่พอเห็นสภาพศพของน้องกลับพบว่า
มีรอยคล้ำที่ข้อเท้า จึงได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สน. พระโขนง
ตนจึงได้สอบถามครูแอมว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกสาวตน ครูแอมบอกว่าหลังรับน้องมาเลี้ยง
ก็ให้น้องกินนมปกติ พอน้องกินเสร็จ ก็อุ้มขึ้นมาพาดบ่าเพื่อให้น้องเริ ก็เห็นน้องนิ่งไปตัวคล้ำสีม่วง
จึงพยายามปั้มหัวใจและผายปอด หก่อนจะพาไปรักษาที่คลินิก แต่ก็ไม่ทันน้องเสียชีวิต
โดยครูแอมบอกว่า น้องน่าจะสำลักนมจนหายใจไม่ออก ตอนนี้ตนรอผลชันสูตร 45 วัน
จึงเดินทางไปหาทนายรณณรงค์ให้ช่วยเหลือทางคดี เพราะเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรม
เพราะตอนนี้ครูแอม ก็ยังไม่ได้ถูกดำเนินคดีแต่อย่างใดยังใช้ชีวิตปกติ
หลังจากเกิดเหตุยังส่งข้อความมาบอกนางปราณีว่า คราวซวยของครู ได้เงินแค่ไม่กี่พัน
ซึ่งเป็นคำพูดที่แม่รับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้นกับลูก จึงอยากให้ครูแอมออกมาชี้แจงเรื่องที่เกิดขึ้นว่า
เกิดอะไรขึ้นกันแน่ และแสดงความรับผิดชอบ ไม่ใช่มาบอกว่าคราวซวย
ทนายรณณรงค์ได้กล่าวว่า ธรรมชาติของเด็กเล็ก ถ้าจะสำลักนมเสียชีวิต จะมีขวดนมป้อนในปากไว้
ในด้านกฎหมายต้องรู้ว่าน้องเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ คือ ประมาทปล่อยปะละเลย ให้เด็กสำลักนม
และไม่สนใจดูแล หรือเป็นเหตุสุดวิสัย คือ เด็กตายเอง หากเด็กนั้นได้เสียชีวิตจากความประมาท
ต้องรอผลตรวจจากทางแพทย์ แล้วจะมีการแจ้งข้อหากับครูต่อไป ซึ่งโทษสูงสุดนั้นจะอยู่ที่ 10 ปี
และต้องรับผิดชอบค่าเสียหาย ปกติแล้ว ถ้าเด็กอายุ 3 เดือน เนอสเซอรี่จะไม่รับดูแล แต่ไม่เข้าใจ
ว่าทำไมครูแอมถึงรับ ซึ่งนางปราณีบอกว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด และอยากฟังความจริงจากปากครู