"Lucy letby" พยาบาลสาววัย 33 ปี ถูกศาลอังกฤษตัดสินให้มีความผิดข้อหาฆาตกรรมทารก 7 คน
Lucy letby พยาบาลสาววัย 33 ปี ถูกศาลอังกฤษตัดสินให้มีความผิดข้อหาฆาตกรรมทารกเจ็ดคนในแผนกทารกแรกคลอด ทำให้เธอกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องที่ฆ่าทารกมากที่สุดในประวัติศาสตร์ และนอกจากนี้ยังมีเด็กอีกจำนวนนึงที่รอดตายจากฝีมือนาง แต่กลายเป็นผู้พิการ หรือมีปัญหาทางสมองและพัฒนาการ ตอนนี้ตำรวจกำลังขยายผลเพิ่มและตรวจทานเคสทารกที่นางเคยมีส่วนร่วมในการดูแลกว่าสี่พันราย การฆาตรกรรมต่อเนื่องนี้เกิดขึ้นช่วงปี 2015-2016 ซึ่งในช่วงปีนั้น อัตราการตายของทารกใน รพ ที่เธอทำงานอยู่ โดยเฉพาะทารกที่คลอดก่อนกำหนด พุ่งสูงขึ้นอย่างผิดปรกติ โดยศาลระบุว่าเธอจงใจฆ่าทารกเหล่านั้น และพยายามบิดเบือนให้แพทย์พยาบาล เข้าใจว่าเด็กเสียชวิตเพราะอาการทรุดหนักลง โดยวิธีที่เธอใช้ฆ่าทารกเหล่านั้นได้แก่ จงใจฉีดอากาศเข้าไปในสายน้ำเกลือ (จะไปอุดตันอวัยวะต่างๆจนตาย) จงใจฉีดยาเกินขนาด หรือป้อนนมเยอะๆจนเด็กสำลักปอดบวมตาย โดยเด็กทุกคนที่ตาย ผ่านมือนางหมด คนที่รอดไปได้ก็พิการทางสมอง
ปัญหาคือ มีแพทย์ที่สงสัยว่ามันเกิดอะไรบางอย่างผิดปรกติขึ้นใน รพ แล้ว และสงสัยเธอคนนี้ จึงไปร้องเรียนให้มีการตั้งกรรมการสอบ แต่ไม่มีการสอบ ผู้บริหารเชื่อว่าเธอไม่เกี่ยวข้อง คิดว่าหมอมโนไปเองและบังคับหมอให้ขอโทษนางด้วย แต่มีการไปแจ้งความดำเนินคดี ตำรวจจึงเข้ามาสอบและแจ้งข้อหากว่า 22 คดี โดยนางปฎิเสธทุกข้อหาและแย้งว่าเด็กเหล่านั้นเสียชีวิตเพราะปัญหาความขาดแคลนและด้อยประสิทธิภาพของ รพ ไม่ใช่เพราะเธอเลย
ซึ่งผลการสอบสวนประกอบกับพยานหลักฐาน มีสมุดโน๊ตที่นางเขียนเองระบุว่าเป็นคนฆ่าเด็กเหล่านั้นด้วยมือของเธอเอง ศาลจึงตัดสินว่าเธอมีความผิด และจะอ่านคำพิพากษาในวันที่ 21 ที่จะถึงนี้ ยังไม่รู้ว่าแรงจูงใจในการก่อเหตุคืออะไร แต่หนึ่งในพยานที่เป็นอดีตเพื่อนร่วมงาน เล่าว่า เวลาเธอดูแลทารกเหล่านั้นเธอจะชอบทำตัวเหมือนตัวเองเป็นพระเจ้า ที่จะควบคุมชีวิตทารกยังไงก็ได้ และบางครั้งเธอก็จะชอบพูดแนวๆทำนายว่าทารกคนนั้นจะอาการแย่ลงนะแล้วก็เป็นไปตามที่เธอทักจริงๆ อัยการตั้งสมมุติฐานว่าเธออาจทำไปเพราะต้องการความรู้สึกตื่นเต้นเร้าใจตอนปลิดชีพทารกเหล่านั้น