นายวันนอร์ มะทา ประธานสภา ถูกถามแบบนี้เรียกว่าความผิดพลาดหรือผลงาน
เมื่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ซึ่งเคยเป็นประธานสภาหลายสมัย และในการโหวตนายกครั้งที่ผ่านมานั้น
ก็ได้ยังได้นั่งเก้าอี้ประธานสภาเช่นเดิม ซึ่งหน้าที่ของประธานสภานั้น มีหน้าที่หลัก ๆ คือ การควบคุมการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
หรือในกรณีมีการลงมติเลือกนายกรัฐมนตรี การพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม เป็นต้น
และในรอบหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ประธานรัฐสภานัดประชุมร่วมรัฐสภาไปแล้วสี่ครั้ง ซึ่งมีครั้งหนึ่งที่ประธานสภา
สั่งให้งดการประชุมไปหนึ่งครั้ง ขณะที่อีกสามครั้งที่เหลือนั้นก็เกิดเหตุกาณณ์ชวนสับสน ทั้งเรื่องการลงมติตีความ
ว่าการเสนอชื่อนายกรัฐมนตรีซ้ำขัดต่อข้อบังคับการประชุมรัฐสภา และได้มีการชิงปิดการปรุชัมหนีที่ที่การประชุมนั้น
เพิ่งผ่านมาได้เพียงสองชั่วโมง
เราจะมีตั้งข้อสงสัยกันว่า สามข้อหลักต่อไปนี้เป็นความผิดพลาดหรือผลงานอันดีเยี่ยมกันแน่
1. นายวันนอร์ ไม่สามารถควบคุมการประชุมได้ ปล่อย สส. สว. ลงมติตีความข้อบังคับข้อ 41 ซึ่งขัดต่อหลักกฎหมายและรัฐธรรมนูญ
นายวันนอร์ไม่มีความแม่นยำในข้อบังคับและหลักกฎหมาย จึงไม่สามารถควบคุมการประชุมเพื่อไม่ให้ สส. และ สว.
ลงมติผิดเพี้ยนแบบนี้ ซึ่งประธานสภาอาจใช้อำนาจตามข้อบังคับ ข้อ 22 เลื่อนการประชุม หรือเลิกประชุมได้ตามที่สมควร
เพื่อให้บรรดา สส. และ สว. ได้กลับไปคิดทบทวนและพิจารณาว่าจะดำเนินการกับมตินี้อย่างไร แต่นายวันนอร์กลับใช้อำนาจในตำแหน่ง
ประธานสภาตีความหมายว่า การเสนอชื่อพิธาซ้ำนัั้น เป็นข้อต้องห้ามตามข้อบังคับ ข้อ 41
2. เลื่อนโหวตนายยกรัฐมนตรีสองครั้ง หลังจากทีคนบิดเบือนหลักกฎหมาย
หลังรัฐสภาตีความหมายบิดเบือนหลักกฎหมาย ก็มีประชาชนที่ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อผู้ตรวจการแผ่นดินอย่างน้อย 17 คำร้อง
เพื่อให้ผู้ตรวจการแผ่นดินส่งเรื่องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ข้อให้ศาลวินิจฉัยว่ามติของรัฐสภาเป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของประชาชน
ในฐานะผู้มีสิทธิเลือกตั้ง หากกูข้อเท็จจริง พิธา ลิ้มเจริญรัฐ หัวหน้าพรรคก้าวไกลแถลงต่อสาธารณะแล้วว่า จะขอเปิดทางให้พรรค
เพื่อไทยเป้นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแทนพรรคก้าวไกล ไม่ได้จะเสนอชื่อพิธาซ้ำอีก ส่วนทางพรรคเพื่อไทยก็ประกาศพร้อมเสนอชื่อ
เศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี จึงไม่มีสถานการณ์ที่จะต้องเสนอชื่อบุคคลเดิมซ้ำ และไม่มีเหตุผลที่จะต้องรอศาลรัฐธรรมนูญ
3. ชิงปิดประชุมหนี หลัง สส. เสนอให้ทบทวนการตีความข้อบังคับ ข้อ 41
เมื่อมีการนัดพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 272 ยกเลิกอำนาจ สว. เลือกนายกรัฐมนตรีที่เสนอโดย
สส. พรรคก้าวไกล รังสิมันต์ โรม สส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล เสนอญัตติด่วน ให้สภาพิจารณาทบทวนและ
ลงมติเกี่ยวกับข้อบังคับการประชุมรัฐสภา ข้อ 41 ให้เสนอชื่อบุคคลให้รัฐสภาลงมติเลือกนายกรัฐมนตรีซ้ำได้หรือไม่
ซึ่งประธานสภา หรือ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา มีท่าทีไม่เห็นด้วย แม้จะมีผู้รับรองที่ครบถ้วนแล้วก็ตามโดยนายวันนอร์
บอกว่าที่ประชุมลงมติไปแล้ว และในขณะนี้ศาลรัฐธรรมนูญกำลังพิจารณาอยู่ จึงอยากให้รอไปก่อน เมื่อเรื่องราวยืดเยื้อ
ไปถึงศาลรัฐธรรมนูญ แต่นายวันนอร์ ในฐานะประธานสภากลับสั่งปิดประชุมทันที การที่นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา
ชิงปิดประชุมนั้น ทั้ง ๆ ที่ญัตติดังกล่าวนั้นยังไม่จบ และทำให้รัฐสภายังไม่ได้ลงมติว่าจะทบทวนการลงมติ
ตีความข้อบังคับ ข้อ 41 หรือไม่ และไม่ได้พิจารณาแก้รัฐธรรมนูญซึ่งอยู่ในระเบียบวาระถัดมา
ทั้งสามข้อนี้เป็นผลงาน หรือ ความผิดพลาดของประธานสภากันแน่ เป็นเรื่องที่เรายังต้งจับตากันต่อไปว่า
ในอนาคตผลงานของประธานสภาจะเป็นอย่างไร