"กัณวีร์" ยันไม่โหวตให้ "เพื่อไทย" ถ้ามีพรรค 2 ลุงร่วม ลั่นการเมืองต้องมีความตรงไปตรงมา

        นายกัณวีร์ สืบแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรมโพสต์ข้อความถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยประกาศจัดตั้งรัฐบาล โดยระบุว่า "ถ้าในรัฐบาลพรรคเพื่อไทย มีพรรค 2 ลุง ผมยืนยันว่าจะไม่โหวต ไม่ร่วมรัฐบาล เป็นจุดยืนพรรคเป็นธรรม เพราะเราต้องการสร้างระบอบประชาธิปไตย ลบอำนาจเผด็จการ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐ รวมไทยสร้างชาติ เป็นจุดกำเนิดการสืบทอดอำนาจเผด็จการ ไม่ว่าจะทางใด ทางหนึ่ง จะมาครึ่งพรรค ก็ย่อมรับไม่ได้ครับ ผมให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคเพื่อไทยไปขอขมาพรรคก้าวไกล ให้ร่วมโหวตนายกรัฐมนตรี ถือเป็นสิทธิขาดของพรรคเพื่อไทย ที่พรรคเป็นธรรมไม่ขอก้าวล่วง แต่ยอมรับว่าทำให้มีความหวังที่จะเห็นพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทย กลับมาคุยกันเป็นสัญญานที่ดีของการกลับมาของรัฐบาลประชาธิปไตย

        การเมืองต้องตรงไปตรงมา อย่าให้บรรทัดฐานบิดเบี้ยวเลยครับ รัฐบาลพิเศษ ที่จะสลายขั้ว เพื่อแก้วิกฤต อาจไม่ใช่คำตอบ เพราะมีคำตอบเดียวที่จะแก้วิกฤตได้ คือการมีรัฐบาลประชาธิปไตย 312 เสียง รออีก 9 เดือนเท่านั้นครับในส่วนพรรคเป็นธรรมจะโหวตให้นายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยหรือไม่ ก็ยืนยันในหลักการเดิมว่าจะต้องไม่มีพรรคที่สืบทอดอำนาจเผด็จการเข้าร่วมรัฐบาล ซึ่งจากที่ดู 9 พรรคที่มาจับมือกับพรรคเพื่อไทย ยังไม่มีพรรคพลังประชารัฐ และพรรครวมไทยสร้างชาติ ส่วนพรรคอื่นไม่ใช่พรรคอำนาจเก่า พรรคเป็นธรรมก็ต้องนำมาตัดสินใจว่าจะโหวตนายกรัฐมนตรีให้พรรคเพื่อไทยหรือไม่ เพราะต้องดูที่การฟอร์มรัฐบาลด้วย

        กรณีพรรคเพื่อไทยเสนอจัดตั้งรัฐบาลพิเศษ เพื่อสลายขั้ว ก็ยืนยันว่า ไม่ใช่แนวทางที่ถูกต้อง เพราะเป็นการสร้างขั้วใหม่ ทำไมไม่เริ่มจาก 8 พรรค พูดคุยกับ สว.และพรรคอื่น นั่นคือการสลายขั้ว เป็นรัฐบาลของประชาชนสมการ มี 8 พรรคแล้ว มี 312 เสียง ทำไปได้แต่แรกแล้ว แต่ตอนนี้จัดตั้งรัฐบาลใหม่ สมการใหม่ น่าแปลกใจถ้าพรรคก้าวไกล ไม่ได้ร่วมจัดตั้งรัฐบาลด้วย จะขัดกับเสียงส่วนใหญ่ของประชาธิปไตย ที่พรรคที่ 1 ไปเป็นฝ่ายค้าน จะทำให้กฎกติกา ระบอบประชาธิปไตย จริยธรรม ประชาธิปไตยบิดเบี้ยว จะสร้างบรรทัดฐานให้ระบอบประชาธิปไตยเดินไม่ได้ การเลือกตั้งครั้งหน้า หากพรรคเล็กจะรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาลประชาชนจะรู้สึกอย่างไร ที่เลือกพรรคนี้ จัดตั้งสร้างระบอบประชาธิปไตย แต่เป็นผู้นำจัดตั้งรัฐบาลไม่ได้ จะเลือกตั้งไปเพื่ออะไร ถ้าทำให้บรรทัดฐานเบี้ยว และจะเบี้ยวตลอดไป ครั้งนี้จึงต้องทำให้ตรงไปตรงมา เพื่อให้ประเทศไทยเดินหน้า"