ไต้หวัน สั่งใช้ไฟฟ้าช็อต จับปลาชะโดไทย หลังยึดพื้นที่ทะเลสาบสุริยันจันทรา เผย 2 สัปดาห์จับได้กว่า 7,000 ตัว
หน้าร้อนเป็นฤดูเพาะพันธุ์ของปลาชะโด สัตว์น้ำต่างถิ่นในทะเลสาบสุริยันจันทรา ที่กำลังกลายเป็นปัญหาใหญ่ของเมืองหนานโถว เนื่องจากเป็นปลากินเนื้อ มีความดุร้าย นอกจากจะแย่งอาหารสัตว์น้ำชนิดอื่น ยังกัดกินปลาท้องถิ่นด้วย ถือเป็นสัตว์น้ำต่างถิ่นที่กำลังเปลี่ยนแปลงระบบนิเวศทะเลสาบ ทำให้ปลาท้องถิ่นสูญพันธุ์
กองการเกษตรเมืองหนานโถว ต้องจัดเจ้าหน้าที่พร้อมอุปกรณ์ช็อตไฟฟ้ากำจัดปลาชะโด ออกปฏิบัติการมาแล้ว 4 ครั้งในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา จับได้กว่า 7,000 ตัว แต่ยังไม่มีทีท่าว่าจะรับมือได้ เพราะปริมาณปลามีมากเกินกำลังปลาชะโด เป็นปลากินเนื้อที่มีขนาดใหญ่ที่สุด และเติบโตเร็วที่สุดในวงศ์ปลาช่อน อาจยาวได้ถึง 1.5 เมตร มีน้ำหนักถึง 20 กิโลกรัม ชาวไต้หวันเรียกปลาชะโดว่า “ปลาเสือ” เพราะดุร้าย โดยเฉพาะในฤดูผสมพันธุ์ คือเดือน ก.ค.- ก.ย. ที่ปลาตัวผู้ซึ่งเป็นผู้ดูแลไข่และลูกอ่อน จะกัดและทำร้ายสัตว์ทุกชนิดที่ผ่านเข้ามาใกล้ ไม่เว้นแม้กระทั่งมนุษย์
นักวิจัยข้อมูลและโครงสร้างชีวภาพ ม.ชิงหัว (NTHU) ให้ข้อมูลว่า ประมาณ 20 ปีก่อน มีชาวไต้หวันนำปลาชนิดนี้เข้ามาจากประเทศไทย หวังจะเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม พอนานเข้า ผู้เลี้ยงเกิดเบื่อหน่าย ไม่อยากเป็นภาระในการเลี้ยงดู จังแอบนำไปปล่อยตามแหล่งน้ำธรรมชาติ และเขื่อนต่างๆ สร้างปัญหาให้ระบบนิเวศอย่างมาก
ปัจจุบัน สามารถพบเห็นและจับปลาชะโดตัวอ่อนได้ถึง 30-40% จากการจับปลาตามแหล่งน้ำธรรมชาติทั่วไต้หวัน สถานการณ์รุนแรงที่สุด คือที่ทะเลสาบสุริยันจันทรา แม้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะร่วมกันปฏิบัติการกำจัดปลาชะโด ในทะเลสาบสุริยันจันทรา ด้วยการช็อตไฟฟ้ามาตั้งแต่ปี 2563 โดยปีแรก จับปลาชะโดลูกอ่อนได้กว่า 8,000 ตัว ปีต่อมา เพิ่มเป็น 34,000 ตัว และในปี 2565 เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศทำให้ชะโดแพร่พันธุ์ช้า จับได้เพียง 15,000 ตัว ส่วนปีนี้ ฝูงลูกอ่อนปลาชะโดจำนวนมากเริ่มแหวกว่ายออกมาหากิน ตั้งแต่ปลายเดือน มิ.ย. จึงเริ่มกำจัดตั้งแต่ต้นเดือน ก.ค. เป็นต้นมา สัปดาห์ละ 1 ครั้ง ทำมาแล้ว 4 ครั้ง จับได้แล้วกว่า 7,000 ตัว คาดว่า จนถึงเดือน ต.ค. นี้ จะจับได้กว่า 30,000 ตัว
ความคิดชาวเน็ต