5 มิถุนายน วันสิ่งแวดล้อมโลก ส่องนโยบายสิ่งแวดล้อมของไทย
5 มิถุนายน วันสิ่งแวดล้อมโลก ส่องนโยบายสิ่งแวดล้อมของไทย
5 มิถุนายนของทุกปีเป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก โดยประวัติคร่าวๆ สืบเนื่องมาจากโลกของเราเกิดวิกฤตการณ์ด้านสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง เพื่อให้เกิดความร่วมมือและรู้ทันเหตุการณ์ จึงได้มีการจัดประชุมใหญ่ระดับโลกขึ้นที่ กรุงสตอกโฮลม์ ประเทศสวีเดน ใ
นช่วงวันที่ 5-16 มิถุนายน พ.ศ. 2515 โดยมีรัฐบาลของประเทศสวีเดนเป็นประธานในการประชุมในครั้งนั้น
.
วันสิ่งแวดล้อมโลกนั้นก่อตั้งขึ้นเพื่อให้เกิดความตื่นตัวในด้านวิกฤตการณ์สิ่งแวดล้อมขึ้นทั่วโลก จึงมีมติให้จัดประชุมใหญ่ที่กรุงสตอกโฮลม์ ระหว่างวันที่ 5-16 มิถุนายน พ.ศ. 2515 โดยรัฐบาลของสวีเดนเป็นเจ้าภาพ ซึ่งเรียกการประชุมนี้ว่า "การประชุมสหประชาชาติเรื่องสิ่งแวดล้อมของมนุษย์" หรือ "UN Conference on the Human Environment" ซึ่งมีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 1300 คน จาก 113 ประเทศ รวมถึงมีผู้สังเกตการณ์อีกกว่า 1,500 คน จากหน่วยงานของรัฐ องค์การสหประชาชาติ และ
สื่อมวลชนแขนงต่างๆ เพื่อร่วมกันหาหนทางแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ประเทศต่าง ๆ กำลังเผชิญอยู่ ซึ่งผลจากการประชุมครั้งนั้นได้มีข้อตกลงร่วมกันหลายอย่าง เช่น การจัดตั้งโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ (United Nations Environment Programme: UNEP) ที่มีสำนักงานใหญ่อยู่ที่กรุงไนโรบี ประเทศเคนยา และรัฐบาลประเทศต่าง ๆ ก็ได้รับข้อตกลงจากการประชุมคราวนั้น
.
ไปจัดตั้งหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อมขึ้นในประเทศของตน ดังนั้นเพื่อเป็นการระลึกถึงจุดเริ่มต้นของการร่วมมือ จากหลากหลายชาติในด้านสิ่งแวดล้อม องค์การสหประชาชาติจึงได้ประกาศให้วันที่ 5 มิถุนายน ของทุกปีว่าเป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก
นโยบายด้านสิ่งแวดล้อมของไทยที่เป็นรูปธรรมของไทยที่ผ่านมาภายใต้ผลการ ดำเนินงานของนายวราวุธ ศิลปอาชา รมต. กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทส. สะท้อนผ่าน
.
"การลดพลาสติก" เป็นเรื่องที่ เราพรรคชาติไทยพัฒนา ได้พยายามรณรงค์ และทำงานกันมาตลอด 4 ปีเต็ม ๆ ตั้งแต่ "ท็อป วราวุธ ศิลปอาชา" ทำหน้าที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
.
และเหตุการณ์ "พะยูนมาเรียม" ที่ต้องสังเวยชีวิตให้กับ "ขยะพลาสติก" ในทะเล คือจุดเริ่มต้น ที่เราทุกคน ต่างพากันออกมาเรียกร้องให้ "ลด เลิก การใช้พลาสติก" ที่จะกลายเป็นขยะตามแหล่งน้ำ ไหลลงสู่ทะเล จนกลายเป็น "ยาพิษ" ให้กับสัตว์น้ำหลาย ๆ ชนิด
นับแต่วันนั้น จนถึงวันนี้ "ท็อป วราวุธ" และ กระทรวงทรัพยากรฯ ได้พยายามรณรงค์ ให้ทุกคนหันมาใช้ถุงผ้า แทนการใช้ "ถุงพลาสติก" แบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง และยังขอความร่วมมือไปยัง ร้านค้าปลีก ร้านสะดวกซื้อ "งดแจกถุงพลาสติก" เพื่อลดปริมาณขยะพลาสติกภายในประเทศลงให้ได้มากที่สุด ควบคู่กับมาตรการห้ามนำเข้าขยะพลาสติกจากต่างประเทศ
.
นี่คือ "เป้าหมาย" ที่แท้จริง ที่ทานโยบายของ ทส. ไม่ได้หวังช่วยให้ร้านสะดวกซื้อ ร้านค้าปลีก มีรายได้จากการขาย "ขยะพลาสติก" เหล่านี้ แต่ในทางกลับกัน ถ้าเราทุกคน "พกถุงผ้า" และปฏิเสธไม่รับถุงพลาสติก ในที่สุด พวกเขาก็จะ "ไม่มีรายได้" จากการขาย "ขยะพลาสติก"
ดังนั้น เรามาสร้างชีวิตวิถีใหม่ ที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ไปพร้อม ๆ กันเพียงคุณพกถุงผ้า พกขวดน้ำใช้ซ้ำได้ ติดตัว เราก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยกันรักษาโลกใบนี้เอาไว้ ให้ยั่งยืน เพื่อลูกหลานของเราทุกคน สวัสดีวันสิ่งแวดล้อมโลก