หนุ่มโดนนายจ้างแจ้งจับข้อหาลักทรัพย์ คดีนี้ส่งแววโอละพ่อมาแต่ไกล

กล่าวได้ว่าเป็นเรื่องราวที่สุดบีบหัวใจของนายภานุวัฒน์ อายุ 44 ปี ชาวบุรีรัมย์ ที่ขี่จักรยานยนต์พ่วงข้าง พาสุนัขคู่ใจสองตัว 

มาจอดพักร้อนที่ริมถนนสายสุวิทวงศ์ (นาดี ปักธงชัย) หรือสาย 304 ฝั่งขาขึ้นไปอำเภอปักธงชัย จังหวัดนครราชสีมา 

จากการสอบถามข้อมูล ทำให้ทราบว่าเขาถูกภรรยาบอกเลิก หนีไปอยู่กับชู้ที่เป็นเพื่อนผู้รับเหมา 

ตนจึงตัดสินใจเดินทางจากพัทยากลับอีสานบ้านเกิด รวมระยะทางกว่า 400 กิโลเมตร 

หลังจากนายภานุวัฒน์ถูกจับกุมในข้อหาเป็นมิจฉาชีพลักทรัพย์ นายอนุเทพ ได้เปิดเผยเรื่องราวว่า นายภานุวัฒน์ได้ขี่จักรยานยนต์พ่วงข้าง

พร้อมด้วยสุนัข 2 ตัว ผ่านบ้านมะค่า ต.หนองระเวียง อ.เมือง จ. นครราชสีมา แล้วเกิดเพลิงลุกไหม้ รถจักรยานยนต์

ครอบครัวนายอนุเทพจึงได้ใช้ทรายดับไฟ หลังจากนั้นให้นานพักบริเวณอู่ต่อรถหลังบ้านเป็นเวลา 2 คืน 

จากการที่ตนได้พูดคุยกับนายภานุวัฒน์ เขาได้อ้างว่า มาจากชลบุรี เพื่อกลับบ่รที่ อ.สตึก จังหวังหวัดบุรีรัมย์

เนื่องจากแฟนมีชู้ ตนรับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงอยากกลับบ้านเพื่อไปตั้งหลัก เมื่อได้ฟังเรื่องราว นายอนุเทพจึงได้เกิดความสงสาร

แต่พอขอดูบัตรประชาชน นายภานุวัฒน์กับบ่ายเบี่ยงทำให้จับพิรุธได้ จากนั้นจึงนำชื่อไปเสิร์ชที่กูเกิ้ล จนพบว่านายภานุวัฒน์

เคยตกเป็นข่าวและมีนายจ้างที่แจ้งความเอาไว้ที่ สภ. ชะอำ จังหวัดเพชรบุรี และยังมีผู้เสียหายอีกหลายราย แจ้งความดำเนินคดี

ตนจึงได้วางแผนให้ตำรวจมาจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจพยายามเช็คประวัติชายคนดังกล่าว ก็ยังไม่สามารถระบุตัวตนได้อย่างชัดเจน

ว่าชื่ออะไรกันแน่ จึงนำตัวตรวจปัสสาวะพบมีสารเสพติดอยู่ในร่างกาย จึงควบคุมตัวที่ สภ. มะเริง 

พร้อมด้วยรถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่าสีดำ ที่ถูกไฟไหม้ ข้าวของเครื่องใช้ นำส้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ

สภ. มะเริง ส่วนสุนัขเพศผู้สองตัว ชื่อ ข้าวโพดกับมะม่วง เตรียมประสานมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์มารับไปดูแล 

หลังจากการสอบสวน นายภานุวัฒน์ยืนยันว่าโดยแฟนทิ้งจริงตามที่เคยเป็นข่าว และเพิ่งเสพยามาเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน ส่วนเครื่องตัดเหล็ก

ยอมรับว่าขโมยบ้านนายจ้างมา เพราะนายจ้างนั้นเอาเปรียบและไม่เคยจ่ายค่าแรง ซึ่งตำรวจ สภ.มะเริงอยู่ระหว่างประสานงานกับ สภ.ชะอำ

มารับตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป