แต่ละพรรคฟัดกันนัว ตีกันเละ ชูวิทพร้อมผสมโรงสาวใส่ศักดิ์สยามกลางสื่อ
นับว่าเป็นประเด็นฮิตตลอดสัปดาห์ก่อนการยุบสภาอีกไม่กี่วัน กับการที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์
นักแฉคอนเนคชั่นแน่น และอดีตหัวหน้าพรรคเรารักประเทศไทย ได้ออกมาแฉ พรรคภูมิใจไทยโดยมุ่งเป้า แฉนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ นายเนวิน ชิดชอบ และนายอนุทิน ชาญวีรกุล เรื่องประเด็นซุกหุ้น รุกที่การรถไฟ และภาพเตะตูดหยอกล้อที่เป็นข่าว
.
โดยก่อนหน้านี้นายชูวิทย์ ได้บุกไปถึง หน้ากระทรวงคมนาคม เพื่อนำน้ำยาบ้วนปากไปให้นายศักด์สยาม ชิดชอบ และมีการโต้คารมณ์ออกสื่ออยู่หลายครั้งด้วยกัน
.
นับว่าเป็นคู่ปรับที่สมน้ำสมเนื้อกันมาก สำหรับเจ้าพ่อรับเหมา กับเจ้าพ่ออาบอบนวดมากคอนเนคชั่น ก็น่าสนใจในประเด็นที่ข่าวลือว่า นายชูวิทย์ อาจรับเงินนักการเมืองฟากใดฟากหนึ่งมา เพื่อสกัดขาภูมิใจไทย จากการที่เป็นพรรคแทงกั๊กเล่นใหญ่ทุนหนาอาจสร้างความหมั่นใส้ให้แก่บางพรรคในเวลานี้ก็เป็นได้
.
ตัดมาอีกพรรค สองพี่น้อง ป้อม - ตู่ ที่ขยันกันเพิ่มเงินในโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐหรือบัตรคนจนนั้น กลายเป็นว่าเป็นการแยกทางกันเดินที่ดูแปลกดีที่แข่งกันขึ้นราคาบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ทั้งๆที่งบประมาณแผ่นดินตอนนี้ติดลบไม่รู้เท่าไหร่ แต่ที่พีคกว่า คือ การดูด ส.ส. พื้นที่เพื่อตีภูมิภาคในภาคใต้เรื่องนี้ทำเอาประชาธิปปัตย์ลำบากใจไม่น้อย โถ!!! เป่านกหวีดเรียกพวกมาล้มกระดานสุดท้ายคาบไปกิน กลายเป็นพรรคเกรด C เลย เพราะอย่าลืมว่า นายทุนคือนายทุนประชาธิปปัตย์เก่าไหนจะ ได้สายบู๊ อย่างเสี่ย เฮ้ง สุชาติ ชมกลิ่น
.
ที่ออกโรง เป็นดิลเลอร์ทุกจังหวัด เรื่องนี้ทำเอาประชาธิปปัตย์ตกที่นั่งลำบาก แน่รอบนี้
.
ไหนจะพรรคก้าวไกล ที่ลำบากใจกับเกมแลนสไลด์เพื่อไทยที่ปิยบุตรออกมายอมรับเองว่า พรรคก้าวไกลอาจไม่ได้คะแนนฟีเวอร์เท่าอนาคตใหม่เมื่อ ปี 2562 แล้ว ทำเอา พิธา งอนยกใหญ่ ถึงขนาดต้องมีคนกลางมาเคลียร์ให้คืนดีกันเมื่อเดือนก่อนกันเลยทีเดียว
.
ถ้าพูดถึงพรรคเป็นกระแสในข่าวแต่ไม่ได้มีข่าวตบตีมากมายนักอย่างพรรคชาติไทยพัฒนา ก็น่าเอ็นดู ที่ล่าสุด พึ่งจบเวทีปราศรัย 10 เวทีเมื่อสัปดาห์ก่อน ที่มีข่าวดังอย่างโดรนบินชนคุณหญิงแจ่มใส ศิลปอาชา นายหญิงบ้านใหญ่ของสุพรรณ มารดาของ บิ๊กท็อป เล่นเอาตกใจไปตามๆกัน แต่ที่รู้สึกว่าเงียบไม่ได้เงียบเพราะไม่ได้อยู่ในกระแส แต่ไม่ได้มีประเด็นดราม่าอะไรมากมายนัก แถมยังซุ่มเงียบทำนโยบายที่แยกไปกว่าทุกพรรคที่ผ่านมา
.
เหลืออีกไม่กี่อาทิตย์แล้ว ที่ลุงตู่จะหมดอำนาจ และการเมืองรอบนี้คำว่า เผด็จการกับประชาธิปไตยก็คงไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาโจมตีได้อีกแล้ว เพราะ เลือกตั้งครั้งต่อไปจะเป็นการวัดฐานเสียงตัวต่อตัวไปเลย ว่าใครรักษาฐานเสียงเอาไว้ได้ 100% ต่างหาก