เมื่อราคาข้าวสวนทางกับต้นทุน โซ่ตรวนล่ามขาชาวนาไทย
ความยากจนเป็นสิ่งที่น่ากลัว และหนี้สินคือโซ่ตรวนที่พันธนาการเกษตรกรไม่ให้ลืมตาอ้าปากได้
.
กับดักความจน คือตัวถ่วงรั้งประเทศไม่ให้ไปไหน ความจนคือสิ่งที่ขังคนในกำแพงของหนี้สินที่ไม่ให้คนเห็นแสงแห่งตะวัน คุณภาพชีวิตที่ดี คือชีวิตที่ได้ทานอาหารที่ดี ได้อากาศที่บริสุทธิ์ ไม่มีสิ่งที่ชื่อว่าความเครียดเป็นตัวรั้ง ให้ต้องจมปลัก ฟังดูอาจเป็นปรัชญาชีวิตที่สวยหรูแต่มันก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า เกษตรกรทั้งประเทศพบเจอกับสภาพชีวิต เช่นนี้อยู่
.
หนี้ ธกส. หนี้จำนองโฉนด เงินกู้ทั้งนอกและในระบบกำลังบั่นทอนคุณภาพชีวิตที่แขวนอยู่บนเส้นด้ายของเกษตรกร และเส้นด้ายที่บางที่สุด
คือเส้นด้ายชีวิตของ "ชาวนา"
.
การทำนาถือว่าเป็นอาชีพที่คนไทยส่วนใหญ่ยึดถือในฐานะกระดูกสันหลังที่ปลูกข้าวเลี้ยงคนในชาติ แม้ประเทศไทยของเราเข้าสู่ยุคอุตสาหกรรม วิถีการทำนา จึงเปลี่ยนจากการทำนาในระบบตลาดทั่วไปแบบปลูกเพื่ออยู่ เป็นการปลูกเพื่อส่งออกในรูปแบบอุตสาหกรรมขนาดใหญ่
.
แต่แล้วการทำนาย่อมมีต้นทุน และต้นทุนของชาวนานับว่าเป็นดินพอกหางหมู เพราะการเก็บเกี่ยวผลผลิตที่ไม่ได้จตามเป้า ภัยธรรมชาติ ที่ส่งผลให้นาล่ม ทำให้ชาวนาเจอสิ่งที่เรียกว่า ภาระหนี้อันหนักหน่วง
เพราะการทำนามิใช่หว่านข้าวแล้วปลูกพร้อมเก็บเกี่ยว แต่มีภาระซ่อนเร้นรายทางที่ยากจะคุม ต้นทุน ดังมีเกษตรกรจังหวัดสุพรรณบุรีสุพรรณบุรี ได้ออกมาโพสต์ภาพพร้อมทั้งเล่ารายละเอียด แจกแจงการลงทุนในการทำนาของตนเอง อีกทั้งยังคำนวณให้แล้วเสร็จทั้งต้นทุน ผลผลิตที่ได้ และกำไรที่ไม่เห็น เนื่องจากในพื้นที่ที่เขาอาศัยนั้น ได้ราคาข้าวตันละ 6,000 บาท
พร้อมกันนี้ผลผลิตที่ได้บางครั้งก็ไม่ถึง 1 ตันด้วยซ้ำ ทำให้รู้สึกว่าที่ลงทุนไป หากไม่มีกำลังสนับสนุน ก็คงไม่ยากที่ชาวนาจะกลายเป็นหนี้
โดยเขาระบุข้อความว่า "ลงทุนทำนาต่อ 1 ไร่ ราคากลาง
ค่าเมล็ดพันธุ์ 600 บาท
ค่ารถปั่น 200 บาท
ค่าทำเทือก 250 บาท
ค่าปุ๋ย 1,200 บาท
ค่ายา 1,000 บาท
ค่ารถเกี่ยว 500 บาท
ค่าเช่า 1,000 บาท
ค่าจ้างคนงาน 500 บาท
ค่าสูบน้ำ 1,000 บาท
รวม 6250 บาท
แต่ราคาข้าวกลับสวนทางอย่างชัดเจน ยิ่งอัตราเงินเฟ้อ การแข่งขันเรื่องข้าวบนเวทีโลกส่งผลต่อราคาขายข้าวอีกทั้งการขาดการปรับตัวในการปลูกข้าวแบบวิถีใหม่ ทำให้ไม่สามารถไปแข่งกับตลาดโลกได้เหมืนที่ผ่านมา
.
พรรคชาติไทยพัฒนาเป็นพรรคหนึ่งที่ให้ความสำคัญ ต่อการเกษตร จึงได้ออกนโยบาย แจกไร่ละ 1,000 บาท สำหรับชาวนา เพื่อเป็นแรงสนับสนุนและเป็นทุนสำรองสำหรับเกษตรกรหมุนในช่วงการทำนา เพราะ อย่าลืมว่า มีต้นทุนเพิ่มการผลิตหลายอย่างเช่น ค่าปุ๋ย ค่ายาฆ่าแมลง รวมจนถึงค่าแรงงานต่างๆ ที่ถือเป็นภาระค่าใช้จ่าย แม้ตอนนี้ยังไม่มีนโยบายพรรคไหนที่เสนอเป็นนโยบายที่เด่นชัด แต่ล่าสุดทางด้าน นายเสมอกัน เที่ยงธรรม ส.ส.สุพรรณบุรี พรรคชาติไทยพัฒนาได้ขยับพูดถึงเรื่อง เงินอุดหนุนเกษตรกรไร่ละ 1,000 บาท
.
นับว่าเป็นพรรคแรกๆที่พูดถึงการเกษตรและการมองภาพรวมที่ส่งผลทั้งขวัญและกำลังใจของชาวนาทั้งเล็กและใหญ่ อีกทั้งเป็นอีกหนึ่งการกระตุ้นให้ชาวนาไม่ทิ้งการทำภาคการเกษตรอีกด้วย






