“ทรู” “ดีแทค” ปักธงสู่ “เทคคอมปานี” หลังปิดดีลรวมธุรกิจ เพิ่มโอกาสใช้นวัตกรรมในอนาคต
“ทรู” “ดีแทค” ปักธงสู่ “เทคคอมปานี” หลังปิดดีลรวมธุรกิจ เพิ่มโอกาสใช้นวัตกรรมในอนาคต
เตรียมความพร้อมอัปเกรดทุกมิติ เพิ่มโอกาสใช้นวัตกรรมในอนาคต สำหรับลูกค้าคนสำคัญ พร้อมนำไทยเปลี่ยนสู่ชีวิตดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบ
นับเป็นอีกก้าวสำคัญของประเทศไทยที่โครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมของในไทย ขับเคลื่อนด้วยภาคเอกชนเตรียมความพร้อมให้ประเทศเข้าสู่ดิจิทอล เพื่อให้เทียบเท่ากับนานาประเทศทั่วโลก ที่ได้เริ่มปรับตัวกันเข้าสู่ระบบดิจิทัลกันแล้ว
ปัจจุบันทรูและดีแทค อยู่ในช่วงระหว่างรวมธุรกิจตามขั้นตอนรวมกันภายใต้บริษัทใหม่ ที่ยังให้บริการในนามของทั้งสอง คือ ทรูและดีแทคเหมือนเช่นเดิม ตอกย้ำความเชื่อมั่น “เมื่อเรารวมกัน ทุกสิ่งจะดียิ่งกว่า”
สิ่งที่ลูกค้าทรูดีแทค จะได้รับทันทีหลังรวมธุรกิจ คือ เครือข่ายคุณภาพกว้างชึ้น ครอบคลุมมากขึ้น เชื่องโยงกันและกันได้ไม่ติดขึด รองรับสไตล์ดิจิทัล ไม่มีเลื่อมล้ำในการเข้าถึงทุกพื้นที่ทั่วประเทศ รวมถึงโอกาสสร้างนวัตกรรมเพื่อสู่สังคมไทยได้ในทุกมิติ
นอกจากนี้สิทธิพิเศษและบริการที่เหนือกว่าและหลากหลาย เป็นการรวมพันธมิตรรายใหม่เพิ่มเติมยิ่งขึ้น ตอบโจทย์หลากหลายไลฟ์สไตล์ที่ครบครันยิ่งกว่าเดิม การก้าวสู่ความเป็นเทคคอมปานีของบริษัทใหม่นี้ ยังเพิ่มขีดความสามารถในการขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านสู่รูปแบบดิจิทัล ทั้งการใช้ประโยชน์จากโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมที่ครบวงจร เพื่อเชื่อมต่อคน ธุรกิจ สังคม และเศรษฐกิจ ผ่าน IoT, Cloud และหลากหลายเทคโนโลยีดิจิทัลแบบ Open Source รวมทั้งการพัฒนาและเชื่อมโยงธุรกิจหลักในทุกภาคอุตสาหกรรมผ่านเทคโนโลยียุคใหม่
และโครงข่าย 5G เช่น การศึกษา เกษตรกรรม การแพทย์ การท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมต่างๆ ตลอดจนการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Machine Learning (ML) ระดับโลกเข้ามามีบทบาทสำคัญในการร่วมพัฒนาประเทศและขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศไทย ซึ่งจะทำให้ทั้งกลุ่มธุรกิจ ลูกค้าผู้บริโภค และประชาชนชาวไทย ต่างได้รับประโยชน์สูงสุดจากศักยภาพของบริษัทใหม่
การรวมธุรกิจครั้งนี้ จะเพิ่มโอกาสนำเทคโนโลยีดิจิทัลลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างประโยชน์ให้ทุกภาคส่วนร่วมกันและเพื่อประโยชน์ต่อผู้บริโภค รวมถึงการเกิดขึ้นของศูนย์นวัตกรรมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลเทคโนโลยีระดับโลก และทำให้เกิดการจัดตั้งกองทุนวงเงินกว่า 7,300 ล้านบาท เพื่อสนับสนุนสตาร์ทอัพไทยที่มีศักยภาพในการสร้างนวัตกรรมให้ประสบความสำเร็จพร้อมแข่งขันกับนานาประเทศทั่วโลก ตลอดจนเป็นช่องทางให้เข้าถึงคลังข้อมูลบนแพลตฟอร์มแห่งโอกาสที่ครอบคลุม
อ้างอิงจาก: ข่าวหุ้น