หมอสาวเล่าอดีตหลังถูกรัฐกดดัน หลังอัพภาพขณะใส่ขุดว่ายน้ำ

     "หวง จิ้ง เหว่ย" แพทย์ฉุกเฉินโรงพยาบาลไถตง เธอทำงานเป็นแพทย์สาธารณะ ในเมืองหลานยู๋ เป็นเวลา 3 ปีแล้ว ซึ่งเธอได้ออกมาพูดออกสื่อ หลายต่อหลายครั้งแล้ว เกี่ยวกับการต่อสู้กับความรุนแรงของเผด็จการ หลังจากที่เธอได้อัพภาพวันสบายๆ ของเธอนอกเวลางาน โดยเป็นภาพขณะที่เธอใส่ชุดว่ายน้ำ ซึ่งก่อนหน้านี้ภาพดังกล่าว ได้ดึงดูดความสนใจจากผู้คนทั่วโลกจนกลายเป็นไวรัล ทั้งๆที่เธอไม่ได้ตั้งใจแบบนั้น...

     "หวง จิ้ง เหว่ย" กล่าวว่า "ตอนที่ฉันยังเด็ก ย่าของฉันเห็นว่าฉันมีพรสวรรค์ และ คาดหวังว่าฉันจะกลายเป็นหมอประจำเผ่าเมื่อโตขึ้น เช่นเดียวกับผู้เฒ่าผู้แก่ในครอบครัวของฉัน ที่เป็นแม่มดประจำเผ่า เนื่องจากฉันเคยรักษาโรค ให้กับผู้คนในชนเผ่าของฉัน"

     "หวง จิ้ง เหว่ย" กล่าวอีกว่า "ก่อนหน้านที่ฉันจะกลายเป็นแพทย์ ด้านสุขภาพสาธารณะ ฉันอยากเป็นแพทย์ไร้พรมแดนในอนาคต แต่ในขณะที่ฉันกำลังเรียนอย่างหนัก ตอนนั้นแม่ของฉันทำงานหนักมาก และ โชคไม่ดีนักที่แม่ของฉันป่วยจากโรคมะเร็ง..."

     "หวง จิ้ง เหว่ย" กล่าวว่า "หลังจากที่ฉันเรียนจบ และ ฝึกอบรม 4 ปีในฐานะผู้เชี่ยวชาญ ด้านการแพทย์ฉุกเฉิน ที่โรงพยาบาลทหารผ่านศึกไถจง ฉันได้มาฝีกงานที่โรงพยาบาลหลานยู่ ซึ่งเป็นเมืองที่ไกลที่สุดในไต้หวัน เพื่อหาเงินช่วยแม่จ่ายค่ารักษาพยาบาล ได้ดูแลแม่ และ ในทางกลับกัน 1 ปีของการบริการในฐานะแพทย์ ในโรงพยาบาลหลานยู่ ฉันสามารถไปถึงยังหมู่บ้านบนเกาะออร์คิด ที่อยู่ห่างไกลจากทุกสิ่งได้ ซึ่งฉันทำแบบนั้นมา 2 ปีแล้ว..."

     "หวง จิ้ง เหว่ย" กล่าวอีกว่า "ตอนนี้ศูนย์สุขภาพเกาะออร์คิด การขาดแคลนกำลังคน ทำให้ตอนนี้บนเกาะมีแพทย์เพียง 3 คนเท่านั้น ซึ่งหมุนเวียนสับเปลี่ยนกันไป และ ฉันจะต้องกลับไปที่งานที่โรงพยาบาล เป็นระยะเวลาหลายวัน เพื่อสะสมวันลาให้เพียงพอ ต่อการลามาที่เกาะประมาณ 10 วัน"

     ซึ่งหลังจากที่ "หวง จิ้ง เหว่ย" ได้อัพภาพลง IG ส่วนตัวของเธอ โดยมีภาพการรักษาผู้คนบนเกาะ ภาพของผู้ป่วยในโรงพยาบาล และ ภาพขณะที่เธอกำลังใส่ขุดว่ายน้ำ ปรากฏว่าภาครัฐได้เข้ามาโจมตีและกดดัน หลังแต่งตัวไม่เหมาะสมต่อการเป็นแพทย์ อีกทั้งหมกมุ่นกับสิ่งที่โรงพยาบาลหลัก ไม่ได้เป็นคนสั่งการหรืออนุญาติ แต่คิดลางานไปรักษาคนที่ ไม่ใช่มีสิทธิรักษาด้วยซ้ำ [ชนเผ่า] ซึ่งมันผิดกฎของการเป็นแพทย์ ซึ่งเธอถูกภาครัฐบังคับให้ทำงานแต่ที่โรงพยาบาลหลักเท่านั้น ซึ่งเธอได้ออกมากล่าวว่า "นี่มันเผด็จการมากเกินไปแล้ว!!""

     ถึงแม้เธอจะคัดค้านเพียงใด เธอก็ต้องจำใจเลิกไปที่เกาะ แล้วมาทำงานที่โรงพยาบาลหลักของเธอ และ เธอก็ได้อัพภาพใน IG ของเธอพร้อมกับเรียกร้องให้ทุกคน สนับสนุนให้เธอกลับไปเยี่ยมผู้คนบนเกาะ และ เธอหวังว่าในปี 2023 จะสามารถไปรักษาผู้คนบนเกาะได้อีก...