"หมอผ่าตัดบอกลูกชายอาจพิการตลอดชีวิต" แต่เปลี่ยนโรงพยาบาลกลับดีขึ้น
หมอ เป็นอาชีพที่คนฝากชีวิตไว้ในยามเจ็บไข้ได้ป่วย
แต่จะมีหมอสักกี่คนกัน ที่เอาใจใส่ชีวิตคนไข้อย่างจริงจัง
และหมอจะรู้ไหมว่า "หมอคนไข้ไว้วางใจหมอแค่ไหน"
เพราะฉะนั้นอย่าทำให้คนไข้ผิดหวังนะคะ เอาใจใส่อย่างเต็มที่สักหน่อยเถอะ
เมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 นางจันทร์เพ็ญ (สงวนนามสกุล) อายุ 53 xu
ต. ถ่อนนาลับ อ. บ้านดุง จ. อุดรธานี เข้าร้องเรียนกับนายภานุมาศ จิตรวศินกุล หรือ เฮียเปี๊ยก
จากเพจเปี๊ยกช่วยด้วย และสื่อมวลชน จ. อุดรธานี
หลังจากลูกชายเข้าผ่าตัดขาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งในอำเภอบ้านดุง
แต่หมอกลับบอกว่า ลูกชายอาจจะพิการไปตลอดชีวิต พอเปลี่ยนไปรักษาโรงพยาบาลอีกแห่ง
ปรากฎว่าอาการลูกชายดีขึ้นเป็นลำดับ
นางจันทร์เพ็ญ เล่าว่า เมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา นายแฟร้ง อายุ 25 ปี
(ลูกชาย) ขี่รถจักรยานยนต์ชนต้นไม้ที่บ้าน จากนั้นถูกส่งตัวไปรักษาที่
โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง ในอำเภอบ้านดุง ซึ่งขณะนั้นหมอแจ้งว่า
ลูกชายกระดูกเข่าซ้ายแตกละเอียด ต้องเข้ารับการผ่าตัด พอผ่าตัดเสร็จแล้ว
ก็ต้องพักอยู่โรงพยาบาลประมาณ เดือนเศษ ๆ จากนั้นก็นัดมาติดตามอาการ
ตอนหมอแจ้งว่า ลูกชายจะกลายเป็นคนพิการ เดินไม่ได้ แม่เสียใจมาก
พยายามถามย้ำแล้วย้ำอีก หมอก็ยืนยันแบบนั้น ต่อมาประมาณเดือนกันยายน
แม่พยายามขอใบส่งตัว เพื่อนำลูกไปผ่าตัดที่ โรงพยาบาลในจังหวัดอุดรธานี
ตอนนั้นทางโรงพยาบาลไม่อนุมัติ แต่แม่ก็พยายามขออยู่เรื่อย 1 จนเดือนตุลาคม
ก็สามารถส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตามที่ต้องการได้
หมอที่รับตัว วินิจฉัยเคสของลูกชายแล้ว ก็ส่งเข้าผ่าตัด โดยด่วน
หลังจากผ่าตัด หมอแจ้งกับแม่ว่า ทำไมเพิ่งส่งลูกชายมารักษา
เพราะหากส่งมาทันทีหรือเร็วกว่านี้ ลูกชายจะกลับมาเดินได้เหมือนเดิม
ตอนนี้ทำได้แค่เพียงผ่าตัดช่วยเหลือ ซึ่งกลับมาเดินได้จริง
แต่เดินในลักษณะกะเผลก เพราะขาที่ผ่าตัดจะไม่เหมือนเดิม
แม่รู้สึกติดใจ ทำไมหมอถึงไม่ยอมส่งตัวลูกไปรักษาตั้งแต่ครั้งแรก
จึงต้องการร้องเรียน หมอที่ทำการผ่าตัดให้ลูกต้องรับผิดชอบต่อการรักษา
ครั้งนี้ ตนเองมีลูกชายคนเดียว ความฝันของพ่อและแม่ที่เห็นลูกชายจะไปสอบตำรวจ แต่สุดท้ายพังทลาย
ด้านนายภาณุมาศ จิตรวศินกุล เปิดเผยว่า เบื้องต้นทางผู้อำนวยการโรงพยาบาลดังกล่าวทราบเรื่องแล้ว
ซึ่ง ผอ. จะทำเรื่องชดเชยเยียวยาให้กับผู้ป่วย ส่วนหมอคนดังกล่าวจะมีการตั้งคณะกรรมสอบสวน
เรื่องการรักษาว่าเป็นอย่างไร หากมีความผิดหรือประสาทเลินล่อก็จะดำเนินการต่อไป
หรือหากคุณแม่จะใช้สิทธิทางศาลฟ้องร้อง หรือจะตกลงไกล่เกลี่ยกับคุณหมอ
ก็สามารถทำได้ โดยวันนี้พาแม่มาร้องทุกข์กับทางโรงพยาบาล
และได้ทำเรื่องขอประวัติการรักษาของผู้ป่วย ไปรักษาต่อเนื่อง
ที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และเอาไว้เป็นพยานหลักฐานในการดำเนินการตามขั้นตอนกฎหมายต่อไป